Brave Browser คือ Web Browser หรือโปรแกรมที่ใช้สำหรับเปิดเวบไซต์ต่างๆเช่นเดียวกับ Safari หรือ Google Chrome แต่ทำงานบนคอนเซบท์ของ Web3.0 ที่เปิดโอกาสให้ผู้สร้างคอนเทนท์และผู้คลิ๊กอ่านเวบไซต์สามารถรับผลตอบแทนได้
คุ้มครองความเป็นส่วนตัวและทำงานได้เร็ว
Browser ทั่วไปมักจะมีการเก็บข้อมูลของผู้ที่เข้าชมเวบไซต์ทำให้เกิดความไม่เป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและข้อมูลส่วนตัวของเราถูกไปใช้ผิดวิธีแต่กับ Brave Browser จะเปิดทางให้เราเลือกว่าจะเปิดรับโฆษณาหรือไม่หรือจะปิดกั้นรวมถึงมีตัวเลือกว่าเราจะบล็อกให้มีการเก็บ Cookie หรือไม่ ตลอดจนมีระดับความปลอดภัยสูงป้องกันการปลอมแปลง (Phishing) และ Malware ไวรัสต่าง ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : Listen To Earn โมเดลสร้างรายได้ทั้งคนทำเพลงและคนฟัง
นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่า Browser อื่นๆ เนื่องจากมีการปิดกั้นโฆษณาและ Cookie ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาโหลดข้อมูลเพิ่ม นอกจากเพิ่มความเร็วแล้วยังลดการสิ้นเปลืองอินเทอร์เนตอีกด้วย
รับรายได้จากการดูโฆษณา
Painpoint ของโฆษณาออนไลน์คือการสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน ทำให้ Brave Browser มีทางเลือกในการปิดโฆษณาให้กับผู้ใช้ แต่อีกทางหนึ่งถ้าเลือกที่จะเปิดให้เห็นโฆษณา ทางแพลตฟอร์มจะแบ่งค่าโฆษณาส่วนหนึ่งให้กับผู้ที่เข้ามาชม ซึ่งจุดนี้แตกต่างไปจากแบนเนอร์ที่ปรากฎผ่าน Google Ads ทั่วไปที่เราคลิ๊กเข้าไปอ่านจะไม่ได้เงินแต่จะเป็นทาง Google และเจ้าของเวบไซต์ที่ได้เงินไป
โฆษณาใน Brave Browser จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ User Ads และ Publisher Integrated Ads กล่าวคือทางเวบไซต์เข้ามาลงทะเบียนกับทาง Brave Browser ก็จะได้สิทธิรับส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาด้วย
ถ้าเปิดดู User Ads จะเป็นช่องทางให้กับ Brand ที่อยากโฆษณากับผู้ใช้งาน ผ่าน Brave Browser โดยผู้ใช้งานจะได้รับส่วนแบ่งค่าโฆษณา 70% และ Brave ได้รับ 30%
ถ้าเปิด Publisher Integrated Ads ผู้ใช้งานจะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าโฆษณา 15% Verified Publishers จะได้ส่วนแบ่งรายได้ 70% และ Brave ได้ 15%
ทั้งนี้ Brave Browser จะใช้เอไอในการคัดเลือกโฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มแรงดึงดูดให้เข้ามาชมโฆษณานอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานสามารถให้ทิปหรือบริจาคเงินให้กับเว็บไซต์ที่ชื่นชอบได้อีกด้วย
Basic Attention Token หัวใจของ Brave Browser
Brave Browser จะมี Basic Attention Token หรือ BAT เป็นโทเคนประจำแพลตฟอร์ม โดยส่วนแบ่งรายได้จากค่าโฆษณาก้จะทำการแจกให้ผู้ใช้งานในรูปแบบของ BAT โทเคนนั่นเอง เท่ากับว่าผู้ใช้งานจะต้องผูกบัญชี Wallet ของตัวเองเข้ากับ Brave Browser ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ธุรกิจจะสร้างแบรนด์และรายได้จาก Metaverse ได้อย่างไร
ขณะที่ผู้ใช้งานที่ถือโทเคน BAT จะได้รับสิทธิพิเศษอย่างเช่นเข้าถึง Special Content รวมถึงสามารถโอนโทเคนให้กับผู้สร้างคอนเทนท์เพื่อเป็นการสนับสนุนผลงาน โดยปัจจุบัน BAT มีลิสต์อยู่ใน Exchange หลักๆ
สรุปข้อดีของการใช้งาน Brave Browser คือ ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ความเร็วที่มากกว่า Browser ทั่วไปและยังเป็นโอกาสของนักสร้างคอนเทนท์ที่จะสร้างรายได้ของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณาแต่เพียงทางเดียว ส่วนผู้ลงโฆษณาก็จะสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องกับแมสเสจที่ต้องการจะสื่อได้ตรงขึ้น โดยที่การชมโฆษณาไม่เป็นการสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน
