Digital Wallets คือ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาแทนที่ระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมโดยเฉพาะการช่วยลดต้นทุนได้อย่างมหาศาลทั้งในฝั่งผู้บริโภคและร้านค้า โดยคาดว่าจำนวนผู้ใช้งาน Digital Wallets จะครอบคลุม 65% ของประชากรทั่วโลกภายในปี 2030 โดยเทคโนโลยีที่จะมีส่วนสำคัญคือ Closed-Loop Transactions ที่จะมาตัดตัวกลางออกไปและเพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์ม Digital Wallets
บทความที่เกี่ยวข้อง : อุตสาหกรรม Digital Consumer จะแซงกิจกรรมออฟไลน์ในปี 2029
อัตราการเติบโตระดับสูงทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ปี 2021 การใช้งาน Digital Wallets ในเชิงอีคอมเมิร์ซครองสัดส่วนกว่า 49% เติบโตจาก 18% ในปี 2016 โดยเข้ามามีส่วนแบ่งการตลาดเหนือบัตรเครดิตการโอนเงินผ่านธนาคารและเงินสด
ขณะที่ปี 2021 Digital Wallets ยังครองสัดส่วนการชำระเงินออฟไลน์ที่ 29% เติบดตจากปี 2108 ซึ่งยังอยู่ที่ 16% แซงหน้าการใช้งานเงินสดโดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
Digital Wallets ยังมีอัตราการเติบโตสูงกว่าการเปิดบัญชีธนาคารดั้งเดิมจากต้นทุนการเข้าถึงที่ลดลง ประสบการณ์ใช้งานที่พิเศษขึ้นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้งาน Digital Wallets จากการประเมินของ ARK Invest การเติบโตของการใช้งาน Digital Wallets ในสหรัฐฯจะเติบโตปีละ 7% ภายในแปเปีข้างหน้าจาก 160 ล้านรายในปี 2022 มาเป็น 260 ล้านราย
ขณะที่จำนวนผู้ใช้ Digital Wallets ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 8% ต่อปี แตะระดับ 5,600 ล้านราย หรือ 65% ของจำนวนประชากรทั้งโลกภายในปี 2030 ยังDigital Wallets สามารถสร้างความใกล้ชิดระหว่างระบบนิเวศน์ทางธุรกิจกับผู้บริโภค โดยมีสถิติว่าถ้าหากแพลตฟอร์มใดมีลูกค้าแตะ 1,000 ล้านราย ก็จะมีผู้ใช้งาน Digital Wallets จำนวน 1 ล้านรายตามมา ซึ่งจะมา Disrupt แนวทางของสถาบันการเงินดั้งเดิม
Digital Wallets ตัดตัวกลางระหว่างร้านค้าและลูกค้า
Digital Wallets ยังมีจุดเด่นที่ตัดตัวกลางออกไปทำให้เกิดการใช้จ่ายตรงระหว่างลูกค้ากับร้านค้าได้โดยตรงซึ่งต่างจากระบบการชำระเงินแบบเก่าซึ่งมีขั้นตอนจำนวนมากและทับซ้อนไปมากโดยมีทรานแซคชั่นกว่า 9 รายการกว่าจะจบขั้นตอนทำให้เกิดค่าธรรมเนียมขึ้น 2.6% ขณะที่ Digital Wallets มีเพียงแค่สามขั้นตอนเท่านั้นก็จะสิ้นสุดธุรกรรมช่วยประหยัดต้นทุนไปได้กว่า 2.4%
การที่ใช้ระบบการจัดการแบบ Closed-Loop Transactions ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจ Digital Wallets มีมาร์จินในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ตัวอย่างเช่นปี 2022 บริษัท Block ต้องจ่าย 60% ของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจากลูกค้าให้กับผู้ที่เป็น 3rd Parties สำหรับการประมวลผลธุรกรรมทั้งหมด ทำให้เหลือกำไรจากค่าธรรมเนียมเพียง 1.15% แต่ถ้าใช้การจัดการแบบ Closed-Loop Transactions จะทำให้เหลือมาร์จินถึง 2.60% สูงกว่าเดิมกว่าเท่าตัว
ประเมินว่า Closed-Loop Transactions จะครอบคลุมกว่า 50% ของการใช้จ่ายผ่าน Digital Wallets ภายในปี 2030 โดยในประเทศจีนได้พิสูจน์แล้วว่าการตัดตัวกลางออกไปจะช่วยลดต้นทุนให้กับแพลตฟอร์ม Digital Wallets ได้ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ผู้บริโภคและร้านค้านอกจีนแผ่นดินใหญ่จะมีส่วนในการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม Digital Wallets กว่า 450,000 ล้านดอลลาร์ ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030
กล่าวได้ว่า Digital Wallets คือ พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินในโลกอนาคตซึ่งผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของแพลตฟอร์มที่เป็นฟินเทคมีโอกาสสูงที่จะได้รับผลบวกจากการเติบโตนี้นั่นเอง
