Bitcoin ETF คือ

Bitcoin ETF กับ Bitcoin ETF Futures ต่างกันอย่างไร?? 8 ปีที่รอคอยจะเป็นจริงหรือไม่

โดย SM1984

Bitcoin ETF คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา Bitcoin ปรับตัวพุ่งทะลุ 60,000 ดอลลาร์และขึ้นมาตลอดเดือนตุลาคมจากกระแสข่าวและความคาดหวังที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ จะอนุมัติกองทุน ETF ของ Bitcoin หรือไม่ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Bitcoin และตลาดคริปโตหลังจากนี้

ในที่สุด ก.ล.ต. สหรัฐฯ ก็ได้อนุมัติกองทุน Bitcoin Futures ETF เป็นที่เรียบร้อยของ Proshares Trust ซึ่งจะเริ่มซื้อขายในวันที่ 18 ตุลาคม นี้ และคาดว่าจะมีการอนุมัติเพิ่มเติมในเร็วๆนี้รวมถึง Ark Investment บริษัทจัดการลงทุนชื่อดังที่เพิ่งยื่นขอจัดตั้งด้วยเช่นกัน

** คอร์สออนไลน์  “มือใหม่เริ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” นอกจากเรียนทฤษฎีทางออนไลน์แล้วยังได้เรียนสดทาง Zoom กับผู้สอนทุกสัปดาห์อีกด้วย รายละเอียดคลิ๊กที่นี้

แต่ Bitcoin Futures ETF ก็ไม่เหมือนกับ Bitcoin ETF และผลกระทบต่อตลาดก็แตกต่างกัน..ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับกองทุน ETF กันก่อน

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 5 เหตุผลที่บอกว่า Bitcoin และตลาดคริปโตกำลังจะทำ ATH

ETF คือกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆตามนโยบายที่กำหนดไว้ เช่น กอง ETF ของ ARK Investment K ที่จะไปลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างๆ 

ETF เป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้วจากความสะดวกในการซื้อขายเพราะสามารถลงทุนได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ต่างจากกองทุนรวมที่มีสภาพคล่องซื้อขายน้อยกว่าและยังมีค่าธรรมเนียมซื้อขายที่ต่ำ และยังใช้เงินเริ่มต้นไม่มากนักแค่หลักพันบาทก็สามารถลงทุนได้

ETF จะมีราคาเคลื่อนไหวตามสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุน เช่น กองทุนของ ARK Investment ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี เมื่อหุ้นอย่าง TESLA ที่มีน้ำหนักการลงทุนสูงในกองลดลง ราคาของ ETF ดังกล่าวก็ลดลงไปด้วย

ทั้งนี้ Bitcoin Futures หรือตราสารอนุพันธ์ของ Bitcoin เริ่มซื้อขายกันมาตั้งแต่ปี 2018 โดย CME ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์อย่างเช่นทองคำ น้ำมัน สินค้าเกษตร ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ที่ชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา

หลักการก็คือผู้ลงทุนไม่ได้ไปเทรด Bitcoin แบบ Futures ใน Exchange แบบที่เราคุ้นเคยกัน (พวก X เยอะๆทั้งหลายที่เล่นกันจนพอร์ตแตก) แต่ CME จะสร้างสัญญาซื้อขายที่อ้างอิงกับราคา Bitcoin Spot ให้และเทรดได้ทั้ง Short และ Long พูดง่ายๆคือ

Bitcoin Futures ในตลาด CME เป็นโอกาสของนักลงทุนที่ต้องการได้ผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของราคา Bitcoin โดยไม่ได้มี Exposure โดยตรงกับ Bitcoin อีกทั้งยังออกโดย CME ซึ่งมีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ กองทุนหรือนักลงทุนสถาบันจึงมีความมั่นใจในการเข้าลงทุน (Paul Tudors Jones ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยประกาศว่าได้ลงทุนใน Bitcoin Futures) 

ดังนั้น Bitcoin Futures ETF คือกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปลงทุนใน Bitcoin Futures เพื่อสร้างผลตอบแทนและเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาซื้อลงทุนใน ETF ดังกล่าวอีกที 

แต่การมาของ Bitcoin Futures ETF ไม่สร้างอิมแพ็คให้กับตลาดคริปโตหรือราคา Bitcoin ได้เท่ากับ Bitcoin ETF ซึ่งมีกำหนดจะพิจารณาตัดสินในโดย ก.ล.ต. สหรัฐฯ  ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ 

ความแตกต่างคือ Bitcoin ETF คือ การที่กองทุนจะนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนใน Bitcoin ในตลาด Spot โดยตรง ต่างจาก Bitcoin Futures ETF ที่ลงทุนในอนุพันธ์ของ Bitcoin ซึ่งเป็นเพียงการเก็งกำไรไม่ได้ไปลงทุนใน Bitcoin จริงๆที่ถือเป็นเจ้าของได้

หาก Bitcoin ETF เกิดขึ้นได้จริงจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจากตลาดการเงินดั้งเดิมจะไหลเข้ามาลงทุนใน Bitcoin ได้มากขึ้นจากการที่มี ก.ล.ต. สหรัฐฯ เป็นผู้รับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากเดิมที่อาจจะมีนักลงทุนสนใจใน Bitcoin แต่กลัวเรื่องของข้อกฎหมาย ความกังวลนี้จะหายไป Demand ใน Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล 

ที่สำคัญคือ Bitcoin ETF มีสภาพคล่องซื้อขายที่สูงกว่า Grayscale Bitcoin Trust ที่เปิดให้นำเงินจากโลกดั้งเดิมมาลงทุนใน Bitcoin แต่ไม่คล่องตัวในแง่ของการซื้อขาย

เผลอๆถ้ามี บลจ. จากประเทศไทยที่สนใจใน Bitcoin จะตั้งกองทุนที่ไปลงทุนต่อใน ETF Bitcoin ที่ได้รับอนุมัติ คนไทยก็มีสิทธิลงทุนกองทุน Bitcoin ทางอ้อมได้เช่นกัน

มีสถิติว่าภายหลังจากที่มีกองทุน ETF ของทองคำขึ้นในปี 2004 มาร์เกตแคปของทองคำก็เพิ่มจาก 1 ล้านล้านดอลลาร์ มาเป็น 11 ล้านล้านดอลลาร์ ในปัจจุบัน เพราะว่าเม็ดเงินลงทุนจากคนทั้งโลกสามารถเข้ามาลงทุนในทองคำได้ง่ายและสะดวกขึ้น

เรียกได้ว่าหาก ETF Bitcoin เกิดขึ้นจริงโอกาสที่มาร์เกตแคปของ Bitcoin จะโตขึ้นหลายเท่าแบบที่เคยเกิดกับทองคำก็ไม่น่าจะยากเย็น

การขอจัดตั้ง ETF Bitcoin เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2013 โดยฝาแฝด Winklevoss แต่ก็ไม่เคยมีใครที่ได้รับการอนุมัติ แต่ปีนี้เมื่อได้เห็นท่าทีของประธาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ที่ดูจะไม่เป็นศัตรูกับคริปโตและท่าทีของ FED ที่จะไม่ออกมาจำกัดตลาดคริปโตแบบที่จีนทำ เป็นไปได้ว่า ETF Bitcoin อาจจะเกิดขึ้นได้ในปีนี้เสียที

Bitcoin และตลาดคริปโตก็จะเข้าสู่ศักราชใหม่ที่กลายเป็นสินทรัพย์การลงทุนทางเลือกในกระแสหลักเสียที

Related Posts