ราคา Bitcoin

5 เหตุผลที่บอกว่า Bitcoin และตลาดคริปโตกำลังจะทำ ATH

โดย SM1984

ราคา Bitcoin เดือนตุลาคมสามารถสร้างผลงานได้อย่างดีหลังจากผ่านการปรับฐานมาตลอดเดือนกันยายน ทำให้เริ่มเห็นความหวังที่จะได้เห็น Bitcoin รวมถึงตลาด Altcoin ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง และนี่คือ 5 เหตุผลที่สนับสนุนความน่าจะเป็นดังกล่าว

** คอร์สออนไลน์  “มือใหม่เริ่มลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” นอกจากเรียนทฤษฎีทางออนไลน์แล้วยังได้เรียนสดทาง Zoom กับผู้สอนทุกสัปดาห์อีกด้วย รายละเอียดคลิ๊กที่นี้

สามเดือนสุดท้ายของปีมักจะสร้างผลตอบแทนได้ดี

สถิติย้อนหลังได้บอกว่า 11 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ Bitcoin มีการซื้อขายกันทั่วไป ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีหรือไตรมาสสุดท้ายจะเป็นช่วงเวลาที่ Bitcoin สร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีโดยมีค่าเฉลี่ยของเดือนตุลาค พฤศจิกายนและธันวาคมที่ 13%,53% และ 13% ตามลำดับ โดยสถิติที่บอกว่าเดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่แย่ของ Bitcoin ก็ออกมาเป็นจริงในเดือนที่ผ่านมา

เฉพาะเดือนตุลาคมช่วง 11 ปีที่ผ่านมา Bitcoin ได้ทำผลตอบแทนติดลบเพียง 4 ครั้งในเดือนตุลาคม โดยเฉลี่ยแล้ว Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึง 31% ในเดือนนี้ทำให้เกิดคำที่เรียกว่า Uptober สะท้อนความคาดหวังว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนที่ดีของตลาดคริปโต

หนึ่งปีหลัง Halving ราคา Bitcoin จะทำ ATH

สถิติที่เกิดขึ้นในปี 2013 และ 2017 ซึ่งเป็นหนึ่งปีที่หลังจากเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ราคา Bitcoin จะขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ โดยสองครั้งที่ผ่านมาราคาจะพักฐานในเดือนกันยายนก่อนที่จะเป็นขาขึ้นตลอดสามเดือนสุดท้ายของปี

โดยปี 2017 ราคา Bitcoin ก็พุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงท้ายปี และปี 2021 ภาพของกราฟมีความใกล้เคียงกับสองครั้งที่ Bitcoin สร้างจุดสูงสุดใหม่โดยพักฐานลงในเดือนกันยายนเช่นกัน 

S2F Model ของ PlanB ระบุว่าเดือนธันวาคม BTC จะแตะหลักแสนดอลลาร์

PlanB ผู้ที่นำทฤษฎี Stock To Flow Model มาใช้กับ Bitcoin ได้คาดการณ์ว่า Bitcoin จะปิดที่ 63,000 ดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 98,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน และ 135,000 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม

ทั้งนี้การคาดการณ์ราคา BTC ในเดือนสิงหาคมและกันยายนออกมาค่อนข้างที่จะแม่นยำสูงทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในโมเดลการวิเคราะห์ดังกล่าว โดยหลังจากที่ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ Bitcoin ก็จะเข้าสู่ภาวะการออกข้างหรือขาลงเพื่อสะสมพลังในการสร้างจุดสูงสุดใหม่รอรับการ Halving อีกครั้ง

การเติบโตของตลาด DeFi และ NFT

หาก ICO คือตัวเร่งที่ทำให้เกิดตลาด Bullish ในช่วงปี 2017 มาในปี 2021 ปัจจัยที่ผลักดันตลาดคริปโตก็คือ DeFi และ NFT ซึ่งทำให้เหรียญในสาย Smart Contract ตลอดจน DeFi Governance Token และ NFT Games ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

DappRadar เผยรายงานการวิจัย “Value Flow Report” พบว่าตลาด DeFi และ NFT ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างมาก โดยมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ถูกล็อก (TVL) ใน DeFi อยู่ที่ 114.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 936% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จัก NFT สินทรัพย์ดิจิทัลแห่งอนาคต

ขณะที่NFT มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคม โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 5.2 พันล้านดอลลาร์ และ 99.7% ของการซื้อขายเกิดขึ้นบน Ethereum

กราฟเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณ

การที่รอบฟื้นตัวในขา B ของ Bitcoin ทำได้เหนือกว่าคาดหมายคือวิ่งทะลุ Fibonacci 61.8% แตะที่ระดับ 53,000 ดอลลาร์ ทำให้เป็นไปได้ว่าการปรับตัวลงในขา C ของ Corrective Wave จะไม่ลงลึกมาก ซึ่งการลงมาแตะระดับ 40,000 ดอลลาร์ ในเดือนกันยายน ถือได้ว่าลงมาแถวๆแนว Fibonacci 50-61.8% ไปแล้วก็ถือว่าลงอย่างสมบูรณ์แบบ

การที่ Bitcoin พุ่งเกือบ 10% ในวันแรกของเดือนตุลาคม ยังหนีพ้นกรอบ Channel Sideway Down ได้สำเร็จและยังทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง

ภาพจากนี้จึงน่าจะออกได้สองทางคือ BTC น่าจะเคลื่อนตัวออก Sideway หรือ Sideway Up ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าจะให้มั่นใจว่า BTC เข้าสู่ Wave5 ที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่เหนือ 65,000 ดอลลาร์ อีกครั้ง จะต้องผ่านแนวต้านสำคัญที่ 53,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของการฟื้นตัวในขา B ให้ได้ก่อน ผ่านได้ก็มองถึงเป้าหมายที่ไกลกว่านั้นได้เลย

แม้ภาพรวมทางกราฟเทคนิค พื้นฐานและสถิติกำลังบ่งบอกว่า Bitcoin กำลังที่จะเข้าสู่ Bullish Mode แต่นักเทรดยังไม่สามารถที่จะประมาทและต้องติดตามภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องรวมถึงบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้ดี

Related Posts