“กลุ่มไทยพาณิชย์” เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์องค์กร ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทางการเงินและโครงสร้างการถือหุ้น มุ่งสร้างการเติบโตและมูลค่าในระยะยาว รับบริบทโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดยานแม่ “เอสซีบี เอกซ์” (SCBX) ประกาศทำคำเสนอซื้อ หรือ Tender Offer หุ้นทั้งหมดของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กับผู้ถือหุ้นของSCBเพื่อแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของ SCBX ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX โดยจะเริ่มกระบวนการแลกหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 2มีนาคม 2565 ถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 เพื่อเตรียมนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิกถอนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดในวันเดียวกัน
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคารฯ เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้มาถึงกระบวนการแลกหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ “SCB” เป็น “SCBx” และนำหุ้น “SCBx” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์ เพื่อเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินที่มีศักยภาพสูง และธุรกิจแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งยกระดับองค์กรสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด และสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและแข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในระยะยาว”
กระบวนการแลกหุ้นในครั้งนี้ SCBx จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารในอัตรา 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX การแลกหุ้นดังกล่าวจะไม่ได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ SCB ได้ทำการ “ตอบรับ” คำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วเท่านั้น และเมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2565 และเมื่อผู้ถือหุ้น SCB ตอบรับคำเสนอซื้อมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SCB หุ้น “SCBX” จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะยังใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “SCB” เช่นเดิม และผู้ถือหุ้น SCB ที่ได้ทำการแลกหุ้นได้สมบูรณ์ตามกำหนดเวลาจะเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้น SCBx แทน ส่วนผู้ถือหุ้นของSCB ที่ไม่ได้ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในเวลาที่กำหนดจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารต่อไป อย่างไรก็ตามหลักทรัพย์ของธนาคารจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ในวันที่หลักทรัพย์ของ SCBX เข้าจดทะเบียน
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจภายใต้กลุ่มไทยพาณิชย์ในหลายด้าน รวมทั้งเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจของกลุ่มฯ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตได้อย่างเต็มที่ มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์โดยรวม และจะนำไปสู่โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง” นายอาทิตย์ กล่าวเสริม