เทรด SET50 Futures

10 เคล็ดลับพิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ

โดย SM1984

สำหรับผู้ลงทุนมือใหม่ หรือผู้ที่สนใจเข้ามา เทรด SET50 Futures ในตลาด TFEX นอกจากความรู้เกี่ยวกับสินค้าและกลไกการซื้อขายที่จะต้องทำความเข้าใจเป็นพื้นฐานเบื้องต้นแล้ว ก็ยังต้องรู้จักวางแผนการซื้อขาย และการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม แต่ถ้าต้องการติดอาวุธในการเทรดเพิ่มมากขึ้น 

การอ่านกราฟให้เป็นก็จะช่วยเพิ่มโอกาสพิชิตกำไรจากการ เทรด SET50 Futures ได้ เพราะการวิเคราะห์ทางเทคนิค ถือเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถหาจุดเข้า-จุดออกในการซื้อขายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกราฟเทคนิค คุณอุทัยวรรณชื่นชมเจ้าของหนังสือ “Trend line ง่ายจัง” จากบริษัทไทยเควสท์จำกัด มาแชร์เทคนิคดี ๆ ในการดูกราฟ ภายใต้ Workshop มือใหม่เรียนเทรดออนไลน์ หัวข้อ “10 เคล็ดลับพิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟ” ซึ่งสรุปเทคนิคสำคัญได้ดังนี้

1. ใช้แท่งเทียนดูแนวโน้มตลาด 

อย่างแรกที่ผู้ลงทุนมือใหม่ต้องรู้เกี่ยวกับการดูกราฟ คือ ความหมายของตัวแท่งเทียนทั้งแดงและเขียว เพราะลักษณะการเคลื่อนไหวและสีของแท่งเทียน จะหมายถึงอารมณ์ของตลาดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะนำมาสู่การวิเคราะห์จังหวะในการเปิดหรือปิดสถานะสัญญา เช่น ทริคการอ่านกราฟของ SET50 Futures หากเห็น แท่งเทียนสีแดงยาวกลบแท่งสีเขียวของราคาวันก่อนหน้าให้คาดการณ์ว่าตลาดอาจจะเข้าสู่ขาลง ดังนั้น ให้เตรียมเปิดสถานะขาย (Short) ไว้ หรือหากถือสถานะซื้อ (Long) อยู่ก็ให้เตรียมตัวปิดสัญญาเพื่อป้องกันการขาดทุน

2. ใช้ Time Frame ให้เหมาะกับสินค้า

Time Frame คือ การแสดงกราฟในรายเวลาต่าง ๆ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกช่วงเวลาในการแสดงกราฟราคาได้ตามความต้องการ เช่น รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือเลือกให้แสดงกราฟรายนาที เพื่อดูทิศทางการเคลื่อนไหวหรือการปรับตัวขึ้น-ลงของราคา

 โดยเทคนิคพิชิต SET50 Futures ด้วยกราฟของคุณอุทัยวรรณ ในข้อนี้ก็คือ ถ้าต้องการดูภาพระยะสั้นให้เลือกใช้ Time Frame ช่วง 5, 15 หรือ 30 นาทีเพราะสินค้าในตลาด TFEX มีความรวดเร็วจึงควรเลือกใช้ Time Frame นี้ ซึ่งเหมาะกับการนำมาประกอบการตัดสินใจหรือกำหนดทิศทางการซื้อขาย

3. ใช้ Time Frame ในการหาแนวโน้ม

การใช้ Time Frame ในการหาความสัมพันธ์ของแนวโน้ม และเป้าหมายที่เกิดขึ้นในแต่ละ Time Frame (สั้น กลาง ยาว) จะทำให้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งใน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต 

ซึ่งโดยปกติแล้วใน Time Frame ใหญ่จะมี Time Frame เล็ก ๆ ประกอบอยู่ เช่น กราฟรายเดือนจะมีการเคลื่อนไหวของราคารายวัน และรายสัปดาห์อยู่ หรือที่หลายคนรู้จักกันในประโยคที่ว่า “Time Frame ใหญ่คลุม Time Frame เล็ก”

4. ดูยอดฐานหาแนวรับต้าน

การจะหาแนวต้าน-แนวรับที่ดี ต้องหา ยอด-ฐาน ของช่วงเวลานั้น ๆ ให้ได้ ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าเราหาจุดที่ราคาสูงสุดอย่างน้อย  2 จุด แล้วลากเส้นเชื่อมกัน จะได้เส้นแนวต้าน และถ้าหาจุดต่ำสุดอย่างน้อย 2 จุด แล้วลากเส้นเชื่อมกัน ก็จะได้เส้นแนวรับ 

แต่ถ้าเราใช้จุดสูงสุด และจุดต่ำสุดที่ใกล้กับราคาปัจจุบันมากที่สุด เราจะได้เส้นที่เรียกว่า Trend Line ทั้งนี้ การเทรดSET50 Futures ควรสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาอย่างสม่ำเสมอเช่นหากหลุดเส้นแนวรับตลาดอาจเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลงให้เตรียมเปิดสถานะขาย (Short) ทันที

5. ใช้ Trend Line ดูแนวโน้ม Long / Short

เมื่อเราหาแนวรับและแนวต้านได้แล้ว ผู้ลงทุนจะสามารถลากเส้นเพื่อดูแนวโน้มของราคา (Trend Line) และนำมาใช้วิเคราะห์การถือสถานะ Long หรือ Short สัญญา SET50 Futures ได้ เช่น ควรถือสถานะ Long หากกราฟอยู่แนวโน้มขาขึ้นหรือถือสถานะ Short หากกราฟอยู่แนวโน้มขาลง

 สำหรับมือใหม่ควรฝึกตีเส้น Trend Line อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูแนวโน้มในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด และปรับเปลี่ยนสถานะ Long และ Short ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ 

6. มองระยะสั้นด้วย Stochastic

สโตแคสติก (Stochastic) คือ ดัชนีวัดการแกว่งตัวของราคา โดยเป็นการนำราคาในช่วงเวลาหนึ่ง กับราคาปิด มาคำนวณหาความสัมพันธ์ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคา Stochastic เป็น Indicator ที่เหมาะแก่การดูแนวโน้มในช่วงเวลาระยะสั้นถึงกลาง ทริคการใช้ข้อมูลของ Stochastic คือเมื่อใด %K ตัดขึ้นเหนือ %D เป็นจุดซื้อ (Long) และเมื่อใด %K ตัดลงใต้ %D เป็นจุดขาย (Short) 

7. ดูภาพกว้างด้วย RSI

RSI หรือ Relative Strength Index เป็น Indicator สำหรับใช้ดูการแกว่งตัวของราคา หรือเป็นตัวช่วยในการยืนยันทิศทางของราคา หัวใจหลักของการใช้ RSI ก็คือ Overbought ระดับที่มีคนซื้อมากจนทำให้ราคาแพงเกินไปเป็นสัญญาณขายและ Oversold ระดับที่มีคนขายมากเกินไปจนราคาถูกลงมากเป็นสัญญาณซื้อ 

8. วิเคราะห์ด้วย MACD

เป็นเครื่องมือที่แสดงวงจรของราคา ซึ่งสร้างจากความต่างของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Exponential 2 เส้น วิเคราะห์ประกอบกันกับเส้น Signal Line ซึ่งเหมาะแก่การใช้ดูแนวโน้มระยะเวลากลาง-ยาว หากเส้น Signal Line มีทิศทางตัดขึ้นให้เปิดสถานะซื้อ (Long) และเปิดสถานะขาย (Short) เมื่อเส้น Signal Line มีทิศทางตัดลงมา

9. หาราคาเป้าหมายด้วย Fibonacci

เป็นการนำผลรวมทางตัวเลขตามหลักคณิตศาสตร์มาใช้เป็น Indicator โดยนำชุดตัวเลขเหล่านี้มาสร้างเป็นสัดส่วนระยะห่างระหว่างเส้นแนวโน้ม เพื่อใช้ในการคำนวณหาแนวต้าน-แนวรับ จาก % ที่กำหนด สิ่งที่ทำให้ Indicator นี้พิเศษก็คือเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้หาแนวโน้มได้หมดทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะสั้นกลางหรือยาว 

10. ตัดสินใจ Stop Loss ให้เป็น

หากคุณเป็นผู้ลงทุน คงรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ว่าจะเทรดอะไร ก็ต้องมีจุด Stop Loss เสมอ จุด Stop Loss ไม่ใช่แค่ใช้เป็นจุดตัดขาดทุน แต่ก็สามารถใช้เป็นจุดปิดสัญญาเพื่อทำกำไรได้ คุณอุทัยวรรณ ชื่นชม ได้แนะนำว่าจุด Stop Order มีด้วยกัน 2 แบบ คือ ปิดสัญญา (Stop Loss) เมื่อเส้น Trend Line หลุดจากเส้นแนวโน้มหรือกำหนดจุดออกเป็น % (Trailing Stop) โดยค่าที่นิยมใช้เช่น 3%, 5% หรือ 10% 

สุดท้ายนี้ คุณอุทัยวรรณ ชื่นชมได้ฝากข้อคิดดี ๆ ให้กับนักเทรดมือใหม่ทุกคนว่า ไม่ว่าจะเป็น การดูกราฟ หรือทริค คำแนะนำต่าง ๆ ที่ได้จาก Workshop นี้ ก็อย่าลืมไปว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ปัจจัยหรือเครื่องมือที่ใช้ประกอบกับการตัดสินใจในการลงทุนเท่านั้น  ดังนั้น ไม่ว่าจะซื้อขายสินทรัพย์หรือสัญญาใด ๆ ก็ตาม ต้องมาจากการตัดสินใจที่พิจารณาอย่างดีด้วยตัวของคุณเองเสมอ

Mindset เทรด SET50 Futures ที่มือใหม่ต้องรู้

สำหรับนักลงทุน คุณอาจเคยได้ยินและรู้จักตลาด TFEX กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น “การใช้เงินลงทุนน้อย แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง” “การใช้อนุพันธ์ในการบริหารความเสี่ยง” หรือ “การทำกำไรโดยปราศจากความเสี่ยง (Arbitrage)” อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาด TFEX จะมีเครื่องมือทางการเงินที่สามารถใช้ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ตลาด TFEX ก็ยังคงเป็นตลาดที่นักลงทุนหลายคนกล้า ๆ กลัว ๆ ในการตัดสินใจที่จะเข้ามาซื้อขาย ดังนั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมบทสรุปของ Mindset ที่สำคัญ ผ่านมุมมองของนักวิเคราะห์การลงทุน คุณณัฐพลคำถาเครือผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัดมาเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการเทรด TFEX ให้กับเหล่านักเทรดมือใหม่กันใน Workshop มือใหม่เรียนเทรดออนไลน์ (ภาคค่ำ) หัวข้อ Mindset เทรด SET50 Futures ที่มือใหม่ต้องรู้” 

“TFEX เป็นเครื่องมือทางการเงิน

คุณณัฐพลได้กล่าวว่า SET50 Futures เป็นสินค้าหนึ่งในตลาดอนุพันธ์ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตหุ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ โดยทั่วไปนักลงทุนจะเข้ามาซื้อขายในตลาดTFEXก็ต่อเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือขาลง (Direction) หรือเฉพาะช่วงที่มีแนวโน้มชัดเจน แต่จริง ๆ แล้วสินค้าในตลาด TFEX สามารถใช้เพื่อบริหารความเสี่ยง เช่น การขาย (Short) สัญญา SET50 Futures ไปพร้อมกับการถือครองหุ้นใน SET50

ในบางสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้นักลงทุนลดความกังวล เพราะสามารถควบคุมปริมาณความเสี่ยงของพอร์ตตัวเอง เนื่องจากไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นเช่นไร จะมีฝั่งหนึ่งที่สามารถทำกำไรได้อยู่เสมอ ที่สำคัญนอกจากจะใช้ป้องกันความเสี่ยงได้แล้ว หลายคนยังใช้สินค้าในตลาด TFEX เพื่อเพิ่มผลตอบแทน หรือ Arbitrage ทั้งยังสามารถสร้างกลยุทธ์ได้หลากหลาย เช่น การซื้อขายแบบ Spread ที่นิยมใช้ในสถานการณ์ตลาดเกิด Panic (กลัวเกินไป) หรือ Pair Trade เป็นต้น

เล่นไม่เกินมูลค่าในพอร์ต

การเทรดในตลาด TFEX นั้นไม่สามารถใช้บัญชีเดียวกับหุ้นได้ นักลงทุนต้องเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์แยกอีกบัญชี  ทั้งนี้ การซื้อขายจะต้องวางหลักประกันขั้นต่ำ (Initial Margin) ไว้กับโบรกเกอร์ และรักษาเงินหลักประกันไม่ให้ต่ำกว่าหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) ที่สำนักหักบัญชีกำหนดไว้อยู่เสมอ

ดังนั้น หากคุณขาดวินัยและการวางแผน จนเงินหลักประกันต่ำกว่าที่กำหนด คุณต้องวางหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) หากไม่วางหลักประกันเพิ่ม หรือเงินหลักประกันต่ำกว่าระดับที่กำหนด จะถูกบังคับขาย (Force Sell) คุณณัฐพลในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์การลงทุนจึงได้แนะนำนักเทรดมือใหม่เกี่ยวกับข้อระวังตรงนี้ว่าไม่ควร Over Trade  หรือซื้อขายเกินเงินที่เรามีอยู่ 

ผิดทางควร Cut Loss”

สำหรับนักลงทุนแล้วไม่ว่าจะเทรดในตลาดไหนก็ตาม ควรต้องมีการวางแผนการเทรดและสร้างกลยุทธ์ขึ้นมา เพื่อใช้รับมือกับความผันผวนของสภาพตลาดในช่วงเวลาต่าง ๆ ถ้า SET50 Futures  อยู่ในช่วงตลาดขาลง การ Cut Loss ก็เปรียบเสมือนกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้น หากพบว่ากลยุทธ์ที่เราใช้มาผิดทาง ให้ตัดสินใจ Cut Loss ทันที! เพื่อเป็นการจำกัดปริมาณการขาดทุน เพราะหากปล่อยไว้ พอร์ตอาจเสียหายมากกว่านี้ และอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะคืนทุน ซึ่งนักลงทุนหลายคนยังขาด Mindset ตรงนี้ไป เพราะพวกเขายังกังวลว่าหาก Cut Loss แล้ว ตลาดอาจไม่ลงต่อ สุดท้ายจึงเลือกที่จะถือสัญญาที่ขาดทุนไว้

ในช่วงท้ายของงานสัมมนาคุณณัฐพล ได้ฝากแนวคิดดี ๆ ให้กับนักเทรดมือใหม่ที่กังวลกับเรื่อง Cut Loss ไว้ว่า “เราสามารถนำเงินจากการขาย ไปลงทุนในสินทรัพย์ตัวอื่นแทนได้ การจะอยู่รอดในตลาดต้องอย่าคิดเล็กคิดน้อยกับการตัดบางอย่างทิ้งไป หากวางแผนมาดี การลงทุน 10 ครั้งใน TFEX นั้น ขอเพียงทายถูกแค่ 4 ครั้ง ก็สามารถทำกำไรได้แล้ว แม้อีก 6 ครั้งจะผิดทางจนต้องขายทิ้งออกไปก็ตาม” สำคัญที่การวางแผนการเทรด การจำกัดการขาดทุน และเก็บกำไรในรอบใหญ่ให้ได้

ขอเพียงแค่มี Mindset ข้างต้น การเทรดในตลาด TFEX ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป แต่ก็อย่าลืมไปว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณลงทุนควรมีการวางแผนอย่างรอบคอบ มั่นใจในประสบการณ์อย่างเดียวอาจไม่พอเพราะอย่างที่คุณณัฐพลได้กล่าวไว้ว่า“ไม้ที่มั่นใจที่สุดอาจเป็นไม้ที่เจ็บหนักที่สุดก็เป็นได้” ดังนั้น ทุกคนควรมีแผนการเทรด มีวินัย บริหารความเสี่ยง และไม่มั่นใจตัวเองมากเกินไป ไม่ว่าสภาพตลาดจะเป็นเช่นไร คุณก็สามารถอยู่รอดและสร้างผลกำไรที่คาดหวังได้อย่างแน่นอน 

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จัก “ ตราสารอนุพันธ์” เบื้องต้นแบบเข้าใจง่าย

Related Posts