จุดเปลี่ยนโลกการเงิน..เมื่อทั่วโลกเปิดรับชำระเงินด้วยคริปโต

สกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency เคยถูกมองว่าเป็นเพียงแค่การเก็งกำไร แต่ก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนสินค้าหรือใช้แทนเงิน โดยเคสที่สร้างกระแสมากที่สุดก็คือการที่ Elon Musk ประกาศรับชำระค่ารถยนต์ TESLA ด้วยบิทคอยน์

ขณะที่ประเทศไทยเองสามสี่ปีที่ผ่านมาได้มีบางร้านค้าที่เปิดรับชำระเงินด้วยบิทคอยน์อย่างเงียบๆแต่ตั้งแต่ปีนี้เริ่มเห็นกระแสของการที่ร้านค้าหรือแบรนด์ที่เปิดรับชำระเงินด้วย สกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนต์เมเจอร์ รองเท้านันยาง ชาบูสไมล์ แม้กระทั่งดารานักแสดงที่รับค่าตัวเป็น Cryptocurrency

นอกจากแบรนด์ต่างๆในระดับโลกที่เปิดรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลทางตรงยังมีบริษัทให้บริการทางด้านการเงินไม่ว่าจะเป็น Paypal ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้รวมถึงเพิ่งเปิดให้ร้านค้าที่ขายสินค้าทางออนไลน์สามารถเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในการชำระค่าสินค้าและบริการได้

แม้กระทั่งบริษัทรับชำระเงินระดับโลกอย่าง VISA,Mastercard ก็เริ่มที่จะเปิดใจกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นโดยเริ่มเปิดทางให้บริษัทฟินเทคต่างๆเข้ามาใช้แพลตฟอร์มเชื่อมต่อระหว่างโลกของ Fiat Currency กับ Cryprocurrency กล่าวคือร้านค้าที่รับชำรเงินด้วย VISA และ Mastercard อาจจะถูกลูกค้าชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีคนกลางมาช่วยแปลงสองสกุลเงินให้แล้ว

อย่างไรก็ตามเรายังบอกไม่ได้ว่าสกุลเงินดิจิทัลจะถูกนำมาใช้จ่ายทั่วไปอย่างแพร่หลายแทนที่ Fiat Currency เพราะยังมีบางประเด็นที่อาจเป็นคำถามสำคัญซึ่งต้องตอบให้ได้เช่นกัน

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : ชาบู สไมล์ นำร่องทดลองใช้ ‘บิตคอยน์’ แทนเงินสด

ความผันผวนของราคาคือตัวแปรสำคัญ

การที่ราคาของสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะส่งผลดีต่อมูลค่าของการถือครองสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อที่สูงขึ้นด้วย แต่ในทางเดียวกันราคาก็มีความผันผวนต่อวันในระดับสูงเช่นกันต่างจากสกุลเงินปกติทั่วไปที่มักจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยต่อวัน ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลแทนที่เงินตราโดยเฉพาะในมุมของร้านค้าเนื่องจากมูลค่าทรัพย์สินที่ได้มาหลังการแลกเปลี่ยนสินค้าจะมีความผันผวน

เท่ากับว่าร้านค้าที่จะเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลต้องมีความเชื่อมั่นในแง่ของมูลค่าทรัพย์สินที่จะสูงขึ้นจากการถือครองสกุลเงินดิจิทัลถึงจะมั่นใจและเปิดรับชำระเงินด้วยคริปโต อย่างเช่นที่มีคำกล่าวว่า TESLA ต้องการที่จะถือครองบิทคอยน์เพิ่มขึ้นจากการที่เปิดรับชำระเงินด้วยบิทคอยน์

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีในปัจจุบันได้ออกมาแก้ไขปัญหาเรื่องของความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัลในการนำมาใช้จ่ายแทนเงินได้แล้วอย่างเช่นการ Convert สกุลเงินดิจิทัลจากลูกค้ามาเป็น Fiat Currency แบบ Real Time ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของการถือครองลงได้

การบันทึกบัญชียังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม

ประเด็นสำคัญที่ร้านค้าหรือแบรนด์ยังไม่ลงมาเปิดรับชำระเงินด้วย Cryptocurrency ก็คือการบันทึกบัญชี เนื่องจากกฎหมายที่ยังคลุมเครือตลอดจนบริษัทตรวจสอบบัญชียังไม่มีมีความเข้าใจในเรื่องของสกุลเงินดิจิทัล เช่นจะจัดให้สกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองอยู่บันทึกเป็นสินทรัพย์ประเภทใด อย่างเช่น สภาพคล่องหมุนเวียนหรือสินทรัพย์การลงทุน ตลอดจนเรื่องของภาษี

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : บิทาซซ่า นายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล ชั้นนำของประเทศไทย รับหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงพาร์ทเนอร์กับ ช่องทางการชำระเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

จับตาหน่วยงานกำกับดูแลลงมาควบคุม

แม้ว่าจะเกิดกระแสการใช้จ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลไปทั่วโลก แต่มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่มีกฎหมายรับรองการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินรวมถึงชำระหนี้ได้อย่างเช่น สิงคโปร์และญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศอื่นๆที่มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลอย่างเช่นประเทศไทยจะจัดให้อยู่ในรูปแบบของสินทรัพย์การลงทุนซึ่งควบคุมดูแลโดย ก.ล.ต. ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำกับดูแลตลาดการเงินทั้งหมดยังไม่ได้ยอมรับสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินตรา

จึงมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเช่นธนาคารกลางชาติต่างๆอาจจะเข้ามาควบคุมดูแลการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินมากขึ้น เพราะอาจมองได้ว่าจะเข้ามามีอิทธิพลต่อระบบการเงินดั้งเดิมซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลไม่น่าจะปล่อยให้มีระบบการเงินสองระบบซ้อนกันอยู่ในประเทศเดียว

กระแสของสังคมไร้เงินสดรวมถึงการยอมรับในสกุลเงินดิจิทัลจากทั่วโลกที่มีมากขึ้นน่าจะทำให้การชำระเงินด้วย Cryprytocurrency เติบโตขึ้นในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย หากประเด็นคำถามเหล่านี้ได้คำตอบที่ชัดเจน เราน่าจะได้เห็นร้านค้าข้างทางที่เปิดรับบิทคอยน์เป็นหนึ่งในทางเลือกของการจ่ายเงินแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จักสกุลเงินดิจิทัล THT บน Terra แบบเข้าใจง่าย