มนุษย์เงินเดือน หรือคนทำงานประจำบางคนอาจมีความฝันที่จะออกจากงานประจำมาเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาหรือ Full-Time Trader เพื่อที่จะได้มีเวลาทำในสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่หรือต้องการที่จะเฝ้าจอเพื่อที่จะสร้างผลกำไรให้ได้สูงสุด แต่ในความเป็นจริง คนที่ทำงานประจำอยู่อาจจะเทรดหุ้นได้ดีกว่าคนที่เทรดหุ้นเป็นอาชีพก็เป็นได้ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
การจดจ่ออยู่กับจอหุ้นอาจจะทำให้ฟุ้งซ่านได้
การเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาที่ถูกบังคับให้ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา นอกจากความเครียดกดดันที่สะสมแล้วยังทำให้เกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นได้ง่ายๆสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ เพราะจะเห็นหุ้นวิ่งตลอดเวลาหรือรับข้อมูลข่าวสารในตลาดมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการ “พลั้งมือ” เทรดหุ้นแบบมั่วๆได้
แต่สำหรับ มนุษย์เงินเดือน ที่ไม่ได้เฝ้าหน้าจอหุ้นตลอดเวลา ปัจจุบันนี้ได้มีเทคโนโลยีที่ช่วยแจ้งเตือนหรือส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติแทนเราได้แล้ว ทำให้การไม่ได้เฝ้าจอไม่ใช่อุปสรรคสำหรับมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป
การที่มีเวลาจำกัดอาจบีบให้เราต้องมีวินัยในตัวเอง
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สนใจเป็น Full-Time Trder ไม่ประสบความสำเร็จคือการขาด “วินัย” ในตัวเอง ยิ่งการที่มีอิสระในตัวเองมาก ยิ่งทำให้โอกาสขาดวินัยเกิดขึ้นได้มาก แต่สำหรับคนทำงานประจำที่มีข้อจำกัดด้านเวลา อาจเป็นข้อดีคือช่วยบีบให้มีวินัยในตัวเองโดยปริยาย เช่น วินัยในการซื้อขาย วินัยในการทำการบ้านหลังเลิกงาน ฯลฯ
เทรดสั้นได้แค่ Cash Flow แต่ลงทุนระยะกลางถึงยาวหวังผลตอบแทนได้เต็มคำ
การเป็น Full-Time Trader ที่เฝ้าหน้าจอตลอดเวลา เพราะต้องการที่จะสามารถเล่นแบบ Daytrade หรือทำกำไรในระยะสั้นจบในวันได้ เพราะจะต้องนำกระแสเงินสดที่ได้มาจากกำไรรายวันมาใช้ดำรงชีวิตเนื่องจากไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอนอีกแล้ว อย่างไรก็ตามการที่โฟกัสกับการสร้าง Cash Flow ระยะสั้นเพียงอย่างเดียว อาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรในระยะกลางถึงยาวไป ทำให้พอร์ตฟอร์ลิโอรวมของผู้ที่เป็น Full-Time Trader อาจไม่โตในระยะยาว
แต่สำหรับ มนุษย์เงินเดือน ที่ไม่สามารถโฟกัสกับการสร้างกระแสเงินสดระยะสั้นได้ เป้าหมายหลักจึงเป็นการเทรดหุ้นแบบ Runtrend หรือ Swingtrade ซึ่งสามารถหวังผลตอบแทนในระดับ 10% ขึ้นไปได้ต่อครั้ง ซึ่งมี Full-Time Trader จำนวนไม่มากนักที่สามารถแยกแยะวิธีการเทรดทั้งสองแบบคือระยะสั้นและระยะกลางถึงยาวได้ในเวลาเดียวกัน
ตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีโอกาสทำกำไรตลอดเวลา
ผู้ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยมาสักระยะย่อมสังเกตุได้ว่าช่วงเวลาที่ตลาดมีการเก็งกำไรหรือมีวอลลุ่มซื้อขายจำนวนมากมีเพียงแค่สองช่วงเวลาเท่านั้นคือช่วงก่อนเปิดตลาดและช่วงก่อนปิดตลาด ช่วงเวลาอื่นแทบจะไม่มีผลใดๆกับราคาหุ้นที่เปลี่ยนแปลง (ยกเว้นหุ้นปั่นที่ขึ้นอยู่กับเจ้ามือว่าจะเล่นเมื่อไร) เท่ากับว่าคนที่เทรดหุ้นแบบทำงานประจำสามารถโฟกัสกับช่วงเวลาในการเทรดได้ แต่สำหรับผู้ที่เทรดหุ้นเต็มเวลา ช่วงที่ไม่มีการเก็งกำไรขึ้นมาก็อาจไม่มีโอกาสที่จะซื้อขายหุ้นเลยในวันนั้นก็เป็นได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะลาออกจากงานมานั่งเฝ้าจอคอมไปทำไม
อย่างไรก็ตาม ในตลาดหุ้นไม่มีสูตรตายตัวว่าคนเป็น มนุษย์เงินเดือน หรือเทรดหุ้นเต็มเวลาจะประสบความสำเร็จด้วยวิธีไหน ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็สามารถสำเร็จหรือล้มเหลวได้ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความตั้งใจและความรู้มากเพียงพอไหมมากกว่า
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : ข้อผิดพลาดที่เทรดเดอร์สายเทคนิคมือใหม่ชอบทำ
