การลงทุนเป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่การลงทุนโดยที่เราไม่รู้ตัวว่าลงทุนอะไรอยู่นั่นคือความเสี่ยง โดยเฉพาะในตลาด Futures และ Options ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นนักลงทุนที่เก่งเชี่ยวชาญขนาดไหน ก็อาจตกม้าตายได้ถ้าไม่เข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้อง
ปณต จิตต์การุญ หรือต้าน Chief Executive Officer แห่ง Mudley Group และ Chief Investment Officer ของ Riccio Investment หนึ่งใน Hedge Fund ที่โด่งดังมากในเวลานี้ มองว่า ตลาดในภาวะปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวนเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะได้เข้ามาเทรดในตลาด TFEX
ขณะเดียวกันสิ่งที่นักลงทุนต้องตระหนัก คือการรู้จักผลิตภัณฑ์ที่ตนเองเทรดอย่างแท้จริง และใช้รูปแบบการเทรดที่เหมาะสม รวมถึงไม่เก็งกำไรมากเกินไปและเน้นแนวคิดของการประกันความเสี่ยงด้วย
“ภาวะตลาดผันผวนที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทุกคนจะได้เรียนรู้การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ ผมเชื่อว่าปัจจุบันนักลงทุนหลายคนอาจไม่เข้าใจอนุพันธ์ดีพอ อย่างกรณีในตลาดต่างประเทศที่ราคาน้ำมันร่วงลงแรงมาก จนทำให้ราคาของ Futures ที่อ้างอิงกับน้ำมันมีค่าติดลบ แต่สำหรับ Futures ของไทยนั้นติดลบไม่ได้ เพราะผลิตภัณฑ์มันมีความแตกต่างกัน”
ถ้าเราไม่เข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เราเทรดอย่างถูกต้อง อาจเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด คือ เราต้องทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐาน รู้จักอนุพันธ์ที่เราจะเทรดว่าสิ่งนั้นคืออะไร ใช้เพื่ออะไร สินค้าไหนที่ใช้อ้างอิง
อย่างสัญญาซื้อขายช่วงหน้า หรือ Futures นักลงทุนต้องรู้ว่า Futures ตัวนั้นอ้างอิงกับสินค้าอะไร เช่น SET50 Futures คือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 สัญญามีวันหมดอายุเมื่อไหร่ และชำระราคาที่เท่าไหร่
การเทรดตลาด Futures เราต้องมองที่มูลค่าสัญญาที่แท้จริงว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ ไม่ควรดูเฉพาะเงินที่เราวางมาร์จิ้นไว้ เพราะเวลาเราเทรดแล้วเกิดความเสียหาย เราจะได้รับผลกระทบตามมูลค่าสัญญาที่แท้จริงไม่ใช่มูลค่าเงินที่เราวางมาร์จิ้นไว้กับโบรกเกอร์ นอกจากนั้น ควรเริ่มเทรดแบบที่ไม่เสี่ยงให้เป็นก่อนและใช้เงินลงทุนตามหน้าตักที่ตัวเองมี
ส่วนในตลาด Options คุณต้านมองว่าเป็นเรื่องของการทำประกันภัย ไม่ใช่การเข้าไปเก็งกำไร อย่างเช่น ถ้าเรามองว่าตลาดเป็นขาขึ้น เราวางกลยุทธ์ของพอร์ตที่เน้นตลาดหุ้นขาขึ้น แต่หากไม่เป็นไปตามที่เราคิดหล่ะจะทำอย่างไร ดังนั้น Options จะเป็นเหมือนประกันภัย ช่วยป้องกันความเสียหายให้กับพอร์ตได้
คุณต้านมองว่า “เสน่ห์ของวิกฤตินั้น มักจะเกิดขึ้นในช่วงที่เราประมาท” ในสถานการณ์ช่วงนี้ที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความเสี่ยงและความผันผวน เราต้องเรียนรู้เรื่องความเสี่ยง การจัดสรรเงิน การตีมูลค่าของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ให้ออก รวมถึงเรียนรู้ทุกๆ
อย่างในตลาด ตลาดหุ้นมีวัฏจักรและความโหดร้ายของการลงทุน คือ เกมระยะยาว แม้ระยะสั้นเราอาจได้กำไร แต่ในระยะยาวถ้าเราไม่เข้าใจเกม กติกา และสินค้า ความเสี่ยงจะสูงมากและโอกาสผิดทางจนขาดทุนหนักก็อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับเคล็ดลับความสำเร็จในการเทรด เราต้องวางแผนทุกครั้งก่อนเทรด คือ ไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตาม ต้องมองว่าหากสถานการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้ เราจะทำอะไรต่อไป เพราะถ้ายังไม่มีคำตอบ แสดงว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง
รวมถึงต้องรู้จักทำประกันให้พอร์ตลงทุนด้วย อย่างเช่น ทุกครั้งที่คุณต้านเทรด เมื่อมีกำไร จะแบ่งเงินออกมา 30% เพื่อมาซื้อประกันให้พอร์ตลงทุนเสมอ นอกจากนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือ ลงทุนแล้วดึงทุนกลับมาให้ได้ ต้องเข้าใจตลาดให้จริง
ในสถานการณ์แบบนี้เงินของเรามีความสำคัญสูงมาก อย่าเสี่ยงโดยไม่มีความรู้ ต้องค้นคว้าจริงๆ ก่อน เราสามารถจัดการได้ แต่ต้องอดทนในการหาความรู้ รู้จักฝึกฝน และลงทุนด้วยเงินที่เราพร้อมจะเสี่ยงและจะสร้างความเดือดร้อนให้เราน้อยที่สุด
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Hedge Fund คืออะไร? มีกลไกทำงานอย่างไร