หลังจากที่ประเทศไทยมีผู้ให้บริการเวบเทรดเงินดิจิตอลหรือ Exchange ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เปิดให้คนไทยได้ซื้อขายเงินดิจิตอลที่ถูกกฎหมายมาต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีอีกหนึ่งผู้ให้บริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Digital Asset Broker เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั่นคือ Bitazza แม้จะไม่ใช่ Exchange แต่บริการที่มีบอกได้เลยไม่ธรรมดา
โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลต่างจาก Exchange ตรงไหน?
ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้สามรูปแบบ แบบแรกคือ Exchange แบบที่สองคือ Broker และแบบที่สามคือ Dealer
Broker กับ Exchange มีบริการที่ต่างกัน Exchange จะช่วยจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายบนแพลตฟอร์มของตัวเอง ในขณะที่ Broker จะช่วยส่งคำสั่งซื้อขายไปหา Exchange หลายๆที่ทั่วโลกที่ให้ราคาดีที่สุด ทำให้เกิดสภาพคล่องสูง
Bitazza จะส่งคำสั่งซื้อขายไปยัง Exchange ทั้งในไทยและทั่วโลกที่ให้ราคาเสนอที่ดี ปลอดภัย และมีสภาพคล่องสูง โดยสามารถเทรดได้ทั้งคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล โดยได้รับใบอนุญาตจากทางกระทรวงการคลังในเดือนพฤษภาคม 2562 และได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจได้ในเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา มั่นใจได้ว่า
บิทาซซ่า จะดูแลทรัพย์สินของลูกค้าเป็นอย่างดีภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต
ออกแบบหน้าเวบสวยงามและ User Friendly
ครั้งแรกที่เปิดหน้าเวบขึ้นมา สิ่งที่สะดุดตาคือการออกแบบหน้าเวบไซท์ที่สวยสะดุดตา ดูแล้วไม่รก ถือว่าเป็น Exchange ที่ User Friendly มากๆ รวมถึงวิธีการส่งคำสั่งซื้อขายที่ออกแบบมาให้สามารถส่งคำสั่งได้อย่างสะดวก โดยใส่วงเงินเป็นเงินบาทให้ลูกค้าเลือกได้เลยว่าจะลงทุนเป็นหน่วยเงินบาทเท่าไร เช่น 1000,2000,3000 ไม่ต้องมานั่งคำนวนวงเงินเอง
ส่วนการยืนยันตัวตน (KYC) ก็มีขั้นตอนที่กระชับเข้าใจง่าย แม้จะไม่เคยทำมาก่อนก็น่าจะสมัครได้ไม่ยาก และใช้ระยะเวลาในการยืนยันไม่นานมากก็สามารถเปิดบัญชีสำเร็จ
ฝากถอนรวดเร็วส่งคำสั่งซื้อขายง่าย
หลังจากทดลองฝากถอนเงินแล้ว ถือได้ว่าเงินเข้าออกรวดเร็วมากๆพร้อมที่จะเทรดได้แทบจะทันที โดยการถอนเงินมีขั้นต่ำที่ 20 บาท และมีค่าธรรมเนียมการถอนเงินครั้งละ 20 บาทและไม่มีขั้นต่ำในการฝากเงิน
ทางบิทาซซ่ายังมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุด โดยร่วมมือกับบริษัท Cold Wallet ระดับโลกอย่าง Ledger ที่มีประกันภัยสูงถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยผู้ใช้งานบริหารความเสี่ยง
สำหรับผู้ใช้งานที่มีปัญหาข้อสงสัยก็สามารถส่งคำสั่งถามไปยังเจ้าหน้าที่ได้ที่ปุ่ม Chat ที่อยู่มุมขวาล่างได้ทันที
เหรียญหลักๆมีให้เทรดครบและเป็นรายแรกที่เทียบเคียงราคากับ USDT
ปัจจุบัน Bitazza มีสกุลเงินดิจิตอลให้เลือกเทรด 4 สกุลหลักนั่นคือ BTC (Bitcoin),ETH (Ethereum),XRP (Ripple) และ XLM (Stellar) ที่น่าสนใจคือเป็นเวบเทรดเงินดิจิตอลรายแรกของไทยที่เปิดให้เทรด BTC,ETH คู่กับ Stablecoin อย่าง USDT ทำให้ผู้ที่คุ้มเคยกับการเปรียบเทียบราคาในระดับสากลนั่นคือ USD มีความสะดวกในการซื้อขาย และล่าสุดคือคู่ซื้อขาย ETH/BTC
แม้ Bitazza จะเป็น โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ใช่ Exchange แต่สภาพคล่องซื้อขายภายในเวบไม่มีปัญหาแต่อย่างไรเพราะบิทาซซ่าจะดึง quote ราคามาจาก Exchange หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ คำสั่งซื้อขายของลูกค้าจะถูกส่งออกไปยัง Exchange โดยใช้หลักการ best execution หรือการทำธุรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งในเรื่องความปลอดภัย ราคา ปริมาณ และความรวดเร็ว
โทเคน “BTZ” สิทธิประโยชน์ที่มีให้กับผู้ใช้งาน
บิทาซซ่ายังมี Utility Token ของตัวเองชื่อ BTZ เพื่อใช้ภายในระบบของบิทาซซ่าเอง โดยจะมีการจัดอันดับผู้ใช้งานให้อยู่ในระดับต่างๆหรือ เลเวล (Levels) ตามจำนวน BTZ ที่มีอยู่ ยิ่งเลื่อนระดับสูงก็จะได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น
โดยระดับของผู้ใช้งานจะเริ่มตั้งแต่ระดับ Bronze ไปจนถึง Silver,Gold,Platinum,Dimond และสูงสุดคือ Emerald
สิทธิประโยชน์มีตั้งแต่ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย อัตราการสะสมแต้ม อัตราส่วนแบ่งรายได้ของผู้ที่เชิญชวนมาใช้งาน (Referral Fee) สิทธิ์ในการโหวตคะแนนเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม ยิ่งสะสม BTZ มากขึ้น เลเวลของผู้ใช้งานของบิทาซซ่าจะเลื่อนขั้นขึ้นเรื่อยๆ
ลูกค้าสามารถใช้ BTZ เพื่อเป็นส่วนลด 50% ของค่าธรรมเนียมในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในช่วงหนึ่งปีแรกของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของบิทาซซ่า ในปีที่สอง ผู้ที่ถือ BTZ จะได้รับส่วนลด 35% จากนั้น 20% ในปีที่สาม และ 10% จากปีที่สี่เป็นต้นไป
ทั้งนี้การจะได้รับโทเคน BTZ จะต้องทำการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มโดยเลือกที่จะปิดรับสิทธิการรับส่วนลดค่าธรรมเนียมการเทรดเอาไว้ แต่ระหว่างนี้จนถึง 2 พฤษภาคม ทางบิทาซซ่าได้เปิดให้ลูกค้าเทรดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม
อีกหนึ่งข่าวดีคือเร็วๆนี้ทาง บิทาซซ่า จะนำโทเคน BTZ ไปลิสต์ในศูนย์ซื้อขายหรือ Exchange เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนโทเคนกันได้
บริการอื่นๆที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อผู้ใช้ทำธุรกรรมที่มีจำนวนสูงในระดับหนึ่ง ผู้ใช้จะได้รับเชิญมาเป็น Bitazza Elite สามารถรับบริการโบรกเกอร์ส่วนตัวที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวก ทางโทรศัพท์ โดยบริการจะปรับให้เข้ากับความต้องการส่วนบุคคลของแต่ละท่าน
นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมแบบ Over the Counter (OTC) เพื่อซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในปริมาณมากอย่างถูกกฎหมายในราคาที่ดีที่สุด โดยมีระบบ Managed Account ที่จะมีโบรกเกอร์ส่วนตัวที่จะช่วยให้การทำธุรกรรมสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยมูลค่าสูงสุดในการทำ OTC อยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาท!!
แว่วมาว่าทาง Bitazza กำลังจะเปิดตัวโปรแกรมรีวอร์ดเพื่อมอบรางวัลให้ผู้ใช้งานในชีวิตจริงนอกเหนือจากซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มอีกด้วย พูดง่ายๆคือนำแต้มไปใช้แลกส่วนลดหรือรับสิทธิพิเศษในบริการอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับคริปโต
สรุปการใช้งานบิทาซซ่า
ข้อดี
- เป็นเวบแรกในไทยที่เทียบเคียงราคา BTC,ETH กับ USDT และล่าสุดระหว่าง ETh/BTC
- การออกแบบหน้าเวบและ UI/UX ที่สวยงาม
- มีโทเคน BTZ ของตัวเองช่วยยกระดับการใช้งานภายในเวบ
ข้อสังเกตุ
- ยังมีเหรียญให้เทรดน้อยเกินไป แต่ทางทีมงานบอกว่ากำลังจะเพิ่มให้มีจำนวนเหรียญเพิ่มขึ้น..เหรียญในปีนี้
- ยังไม่มีโมบายแอป แต่ทางทีมงานบอกว่ากำลังพัฒนาอยู่
สรุปสั้นๆคือ Bitazza เป็น โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีบริการใหม่ๆที่ยังไม่มีผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลรายใดมีให้ลูกค้ามาก่อน แถมยังมีโทเคน BTZ ที่น่าจะมีมูลค่ามากขึ้นในอนาคตด้วย ถ้ายังไม่เคยซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อน นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจะต้องลองดู
สมัครเปิดพอร์ตกับBitazza คลิ๊กตรงนี้ได้เลย
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : หาผลตอบแทนสูงในยุคดอกเบี้ยต่ำด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล