CBG

CBG คว้าแชมป์หุ้น SET100 ผลตอบแทนสูงสุดปี62

โดย SM1984

CBG ขึ้นแท่นอันดับ 1 หุ้นให้ผลตอบแทนสูงสุดของ SET100 เนื่องจากปี 62 มีการ turnaround ชัดเจนหลังกำไรสุทธิลดลง 2 ปีต่อเนื่องจากการทำการตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังโดยปี 62 คาดว่ารายได้จากตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น 15% 

หลังจากที่ราคาหุ้นเป็นขาลงมาอย่างต่อเนื่อง หุ้นของ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือCBG กลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดใน SET100 ของปี 62 โดยให้ผลตอบแทนสูงถึง 174.80% ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือPTG ที่ให้ผลตอบแทน 101.16% กว่า 70% เลยทีเดียว

สำหรับปี 62 ถือว่าเป็นปีที่ราคาหุ้นCBG พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเดือน ก.พ.62 CBG ทำนิวไฮได้สำเร็จในราคา 50.75 บาท หลังจากขึ้นสูงสุดรอบก่อน ที่เดือน ต.ค.61 จากนั้นราคาหุ้นCBG ก็ยังทะยานอย่างต่อเนื่องโดยเข้าสู่ช่วงกลางปี 62 หรือเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้น CBG ขยับไปอยู่ที่ 63.75 บาท ก่อนเข้าสู่เดือน ธ.ค.62 ราคาหุ้น CBG ขยับมาเคลื่อนไหวในกรอบ 83 -84 บาท

สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นCBG ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะกำไรของCBG มีการturnaround หลังจากกำไรสุทธิ 2 ปีที่ผ่านลดลงตลอด โดยกำไรสุทธิย้อนหลังของCBG ตั้งแต่ปี 58-61 อยู่ที่ 1,489 ล้านบาท, 1,245 ล้านบาท และ 1,158 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วน เหตุผลที่ทำให้กำไรสุทธิของCBG ลดลงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการใช้เงินจำนวนมากเข้าไปทำการตลาดในประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ของทีมฟุตบอลเชลซีที่ใช้เงินกว่า 450 ล้านบาท และการเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลลีกคัพของอังกฤษ

ขณะเดียวกัน เมื่อไปโฟกัสที่รายได้ย้อนหลัง 3 ปี ของCBG ถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้ตั้งแต่ปี 58-61 อยู่ที่ 10,112 ล้านบาท, 13,067 ล้านบาท และ 14,597 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าCBG ยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง เพียงแต่ที่กำไรลดลง เป็นเพราะใช้เงินเข้าไปทำการตลาดยังประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้นนั่นเอง

แต่ในปี 62 นี้ ดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทำให้CBG มีโอกาสสร้างผลกำไรโดดเด่นขึ้น และคาดว่าจะโดดเด่นไปอีก 2-3 ปี เนื่องจากยอดขายต่างประเทศมีการเติบโตอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ CBGคาดการณ์ว่าสัดส่วนรายได้ในประเทศเมียนมาร์ และเวียดนาม ในปี 62 จะเติบโตขึ้นจากปี 61 กว่า 50% ส่วนตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน ยอดขายก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย จากเดิมจำหน่ายแบบ Modern Trade ไปขายในปั๊มน้ำมันมากขึ้น โดยปี 62 ตั้งเป้ายอดขายในจีน 150 ล้านกระป๋อง เพิ่มขึ้นจากปี 61 กว่าเท่าตัว ซึ่งจุดยุทธศาสตร์ยังคงเป็นตอนใต้ของประเทศจีน ประเมินว่ายอดขายต่างประเทศของCBG ในปี 62 จะเติบโตกว่า 15%

นอกจากนี้ CBG ยังมีแผนรุกตลาดทวีปอเมริกาใต้ภายใน 3 ปี อีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้CBG มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ขณะที่หุ้นในกลุ่ม SET100 อื่นๆที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้ก็คือ GULF ที่สร้างผลตอบแทนกว่า 98% ตามด้วยโรงไฟฟ้าด้วยกันอย่าง BGRIM ที่สร้างผลตอบแทน 95% และ COM7 สร้างผลตอบแทนได้ 72% ตามมาด้วย OSP,TASCO,GPSC,SAWAD และ  BTS ตามลำดับ เห็นได้ว่าหุ้นที่เติบโตจะประกอบไปด้วยกลุ่มโรงไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม นอนแบงก์ ขนส่งรวมถึงค้าปลีกสินค้าไอที  

ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกำไรสุทธิที่เติบโตต่อเนื่องเป็นสำคัญ ต้องจับตาว่าในปี 2563 หุ้นตัวใดจะสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีในภาวะที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง ถ้าหากลงทุนถูกตัวก็มีโอกาสที่จะสร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดีและสามารถที่จะเอาชนะตลาดได้ ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

Related Posts