SEABW 2025 เลือกจัดงานในประเทศประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางดิจิทัลที่กำลังมาแรงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยดึงดูดผู้นำด้านบล็อกเชนระดับโลก นักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย และนวัตกรให้มารวมตัวกันภายใต้หลังคาเดียวกัน ตอกย้ำบทบาทของไทยที่กำลังเติบโตใน เศรษฐกิจดิจิทัล และเป็นจุดศูนย์กลางของวงการบล็อกเชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอ ความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบ การปรับตัวของสถาบันการเงิน และบทบาทเชิงกลยุทธ์ของภูมิภาคในฐานะ Web3 powerhouse
ในงานแถลงข่าวนี้ SCBX, Bitazza Thailand, Freedom World และ Cryptomind Group ได้ร่วมเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล บล็อกเชน และ Web3 โดยประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นพูดคุย ได้แก่ ทิศทางของตลาดคริปโตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง กรอบกฎระเบียบในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บทบาทของนักลงทุนรายย่อยเทียบกับสถาบัน และความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่แท้จริง แทนที่จะเน้นเพียงการเก็งกำไร นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทาง การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้เล่นสำคัญในภูมิภาคเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง ขณะเดียวกันก็รักษาความยั่งยืนของอุตสาหกรรมในระยะยาว
ในงานแถลงข่าวของ Southeast Asia Blockchain Week 2025, Ryan Kim, Co-founder ของ Hashed และ Hojin Kim, CEO ของ ShardLab ได้กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงบทบาทของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะ ศูนย์กลางสำคัญของอุตสาหกรรมบล็อกเชนและ Web3 พร้อมผลักดัน ความร่วมมือระหว่างนักลงทุน นักพัฒนา และผู้กำหนดนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในภูมิภาค
Ryan Kim กล่าวถึงความสำคัญของการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับอุตสาหกรรมบล็อกเชน ไม่เพียงเพื่อการลงทุนหรือการซื้อขาย แต่เพื่อการใช้งานจริงที่ยั่งยืน ขณะที่ Hojin Kim เน้นย้ำถึงพันธกิจของ ShardLab ในการเป็น ศูนย์กลางวิจัยและพัฒนา Web3 ที่จะช่วยนำเทคโนโลยีระดับโลกเข้ามาผสมผสานกับศักยภาพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งสองยังเน้นว่าความร่วมมือระหว่าง นักพัฒนา โปรโตคอลระดับโลก และผู้นำในอุตสาหกรรม จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อน อนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเงินแบบกระจายศูนย์ในภูมิภาค SEABW 2025 จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เปิดโอกาสให้ นักคิด นักสร้าง และนักลงทุน ได้มาร่วมกันกำหนดทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมบล็อกเชนในระดับโลก
“Bitazza รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีบทบาทในการเชื่อมโยงผู้ใช้งานในประเทศไทยเข้าสู่ Southeast Asia Blockchain Week ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนในประเทศไทย ภารกิจของเราคือการผลักดันการใช้งานในวงกว้าง พร้อมให้ความรู้และเครื่องมือแก่ผู้ใช้งานเพื่อให้สามารถก้าวสู่อนาคตของบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ปัจจุบันประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการยอมรับบล็อกเชนและการเงินดิจิทัล ด้วยกรอบนโยบายที่ก้าวหน้าและระบบนิเวศคริปโตที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง SEABW 2025 จะเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลกได้เชื่อมต่อกับตลาดไทย” – ธนวัต สุตันติวรคุณ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bitazza Thailand
“เราเชื่อว่าอนาคตด้านหนึ่งของการเงินดิจิทัลจะถูกขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและนวัตกรรมบล็อกเชน Southeast Asia Blockchain Week เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยผลักดันบทสนทนาเหล่านี้ให้เดินหน้าต่อไป โดยรวบรวมทั้งสถาบันการเงิน หน่วยงานกำกับดูแล และผู้สร้างนวัตกรรมมาร่วมกันให้มุมมองเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรม ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจดิจิทัล เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศของการให้บริการทางการเงิน” – รวมพร ศิระธนาพันธ์ Blockchain & Digital Asset Lead, SCBX
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Bitazza Thailand จับมือ Tether สร้างศูนย์กลางความรู้สเตเบิลคอยน์ในไทย
“Cryptomind เป็นหนึ่งในชุมชนแรกที่ขับเคลื่อนการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนในประเทศไทย และต่อมาได้เติบโตเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศ เรามองว่า SEABW เป็นจุดนัดพบสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้สร้าง และผู้กำหนดนโยบายในการร่วมกันวางแนวทางสำหรับอนาคตของบล็อกเชน การศึกษาและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน และภารกิจของเราที่ Cryptomind คือการทำให้ทั้งผู้ลงทุนรายย่อยและสถาบันมีข้อมูลและแนวคิดที่ถูกต้องเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับผู้นำระดับโลกและระดับภูมิภาคเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไปข้างหน้า” – สัญชัย ปอปลี, Group CEO, Cryptomind
การปะชุมหลักของ SEABW 2025 ในวันที่ 2–3 เมษายน ภายใต้แนวคิด “The Southeast Asian Way” จะช่วยสะท้อนบทบาทสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่วงการ Web3 ทั้งความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน และแนวทางเฉพาะตัวของผู้ประกอบการในภูมิภาค ไฮไลต์ของงานปีนี้ประกอบด้วย 6 หัวข้อหลัก ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น การกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ความเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับ DeFi อุตสาหกรรมเกมและ NFT บทบาทของชุมชนใน Web3 การผสาน AI กับบล็อกเชน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
นอกจากเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกแล้ว ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับ เวิร์กช็อปแบบลงมือทำ การสาธิตเทคโนโลยีจริง และโอกาสสร้างเครือข่ายกับนักลงทุน ผู้พัฒนา และผู้นำอุตสาหกรรม จึงไม่ใช่แค่งานประชุม แต่เป็น แพลตฟอร์มแห่งการสร้างสรรค์และความร่วมมือ ที่จะขับเคลื่อนอนาคตของบล็อกเชนในภูมิภาคนี้
ซื้อบัตรเข้างานได้ที่: www.seablockchainweek.org
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ: [email protected]
