ARK Invest ประเมินมูลค่าตลาดแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 32% ต่อปี จาก 775 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 5.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการที่มูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินบนบล็อกเชน (on-chain financial assets) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Smart Contract โครงสร้างพื้นฐานของระบบการเงินบนอินเตอร์เน็ต
สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ได้เข้ามาปฏิวัติระบบการเงินบนอินเตอร์เน็ต โดยทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน สัญญาอัจฉริยะเหล่านี้เกิดขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum ซึ่งเป็นเครือข่าย Smart Contract ที่ใหญ่ที่สุด ขณะเดียวกัน เครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆ ก็เริ่มรองรับกิจกรรมบน on-chain และต่างก็แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก Ethereum
Stablecoin คุณประโยชน์ของ Smart Contract
ภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงในตลาดเกิดใหม่และความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ความต้องการ Stablecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่อ้างอิงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้งานแอคทีฟรายวันของ Stablecoin ทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 93% ต่อปี จาก 171,000 คน เป็น 1.2 ล้านคน ปัจจุบัน (ปี 2023) ปริมาณการโอน Stablecoin มีมากกว่า Mastercard เสียอีก
สินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมกำลังย้ายมาอยู่บนบล็อกเชน
เทคโนโลยี Tokenization ช่วยให้ผู้ดูแลสินทรัพย์การเงินสามารถติดตาม ซื้อขาย และใช้สินทรัพย์เป็นหลักประกันได้ง่ายขึ้นบนบล็อกเชนสาธารณะ เมื่อเทียบกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ในปี 2023 สินทรัพย์ทางการเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น (tokenized treasury funds) เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่า เป็นมูลค่า 850 ล้านดอลลาร์ แม้ว่ากองทุนแรกๆ จะเปิดตัวบนบล็อกเชน Stellar แต่ Ethereum กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ tokenized treasuries ในปี 2023
นักพัฒนาปรับปรุงโปรโตคอลในช่วงตลาดขาลง
ในช่วงวิกฤติการณ์และหลังวิกฤติการณ์ของปี 2022 เหล่านักพัฒนาหลักได้เดินหน้าพัฒนาแผนงานด้านเทคนิคและเสริมความแข็งแกร่งให้กับโปรโตคอล เพื่อรองรับตลาดขาขึ้นครั้งต่อไป ตัวอย่างเช่น Ethereum ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนมาใช้ระบบฉันทามติแบบ Proof-of-Stake (PoS)* และ Solana บันทึกสถิติใหม่สำหรับระยะเวลาการทำงานต่อเนื่อง (uptime)
Layer 2 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรมบนระบบ Ethereum
ตั้งแต่ต้นปี 2021 เครือข่าย Layer 2 กว่า 20 เครือข่ายได้เปิดตัวขึ้น ช่วยให้ Ethereum สามารถประมวลผลธุรกรรมเฉลี่ยรายวันได้มากขึ้น 4 เท่า ด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลง ถึงแม้ว่าเครือข่าย L2 เหล่านี้จะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่เครือข่ายส่วนใหญ่ยังคงถูกควบคุมแบบรวมศูนย์ (centrally controlled) การแพร่หลายของเครือข่าย L2 สร้างความซับซ้อนต่อประสบการณ์ของผู้ใช้และนักพัฒนา
ฟังคลิป วิเคราะห์อนาคต Ethereum หลังเกิด ETH Spot ETF ราคาจะไปถึง 22,000 ดอลลาร์??
ต้นทุนที่ลดลงส่งเสริมการมีส่วนร่วมบนธุรกรรม On-Chain
เมื่อต้นทุนธุรกรรมลดลง การมีส่วนร่วมบน On-Chain (กิจกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชน) ซึ่งวัดโดยอัตราส่วนของจำนวนที่อยู่ที่ใช้งานจริงรายวัน (DAUs) ต่อจำนวนที่อยู่ที่ใช้งานจริงรายเดือน (MAUs) ก็เพิ่มขึ้น
Solana คือบล็อกเชนแบบ Monolithic เป็นทางเลือกแทนการขยายแบบแนวตั้ง
การออกแบบเครือข่ายสัญญาอัจฉริยะมีข้อแลกเปลี่ยน ระบบนิเวศของ Ethereum เน้นการกระจายอำนาจที่ชั้นพื้นฐาน ส่งผลให้ระบบมีความซับซ้อนมากขึ้นขณะที่ขยายเครือข่าย ในทางกลับกัน โซลาน่า เน้นการปรับขนาดภายในชั้นเดียว ช่วยรักษาโครงสร้างที่เรียบง่ายสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนาแอปพลิเคชัน ทำให้ได้รับความนิยม
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : กลยุทธ์ M-NEXT โดย Merkle Capital ทางเลือกสำหรับการลงทุนในโทเคนดิจิทัล
Smart Contract สามารถลดต้นทุนบริการทางการเงินได้
มูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นจาก 140 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2000 เป็น 510 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020 เกิดจากการผสมผสานของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกการเงินที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของมูลค่าหุ้นต้นทุนการดำเนินงานของระบบการเงินโลกเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงิน
โดยอุตสาหกรรมบริการทางการเงินโดยรวมมีรายได้ประจำปีรวม 20 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราการรับทั้งหมด 3.3% เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินทั้งหมด สัญญาอัจฉริยะสามารถลดภาระนี้ต่อระบบเศรษฐกิจได้อย่างมาก
Smart Contract อาจสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม 450 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
Smart Contract สามารถอำนวยความสะดวกในการสร้าง การเป็นเจ้าของ และการจัดการสินทรัพย์บน On-Chain ด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม หากสินทรัพย์ทางการเงินย้ายไปยังโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนด้วยอัตราที่ใกล้เคียงกับการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ และอัตราการรับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการทางการเงินแบบกระจายศูนย์มีเพียงหนึ่งในสามของบริการทางการเงินแบบดั้งเดิม
Smart Contract สามารถสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมประจำปีได้มากกว่า 450 พันล้านดอลลาร์ และสร้างมูลค่าตลาดได้มากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 78% และ 32% ตามลำดับ จนถึงปี 2030
บทสรุปจาก ARK Invest คือสถาบันการเงินที่กำลังให้ความสนใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนบล็อกเชนจะเป็นตัวผลักดันให้มูลค่าตลาด Smart Contract และ dApps เติบโตขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้พัฒนา Blockchain Layer1
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : รีวิวแอป Freedom World อัพเดตใหม่ 2024 เพิ่มฟีเจอร์สำหรับจัดการธุรกิจยุคดิจิทัล
