ช่วงเวลาประมาณตี 5 ของวันที่ 13 เมษายน 2566 จะเกิด “Shanghai Upgrade” ซึ่งเป็นกิจกรรม ที่ชาว Ethereum กำลังจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งการอัปเกรดนี้เป็นการที่เปิดฟังก์ชัน “การถอน เหรียญ ETH ที่อยู่ใน Beacon Chain ของ Ethereum” ซึ่งตอนนี้มี ETH อยู่กว่า 18 ล้านเหรียญ ทำให้ หลายคนสงสัยว่า ETH จำนวนมหาศาลที่จะเปิดให้ถอนออกมาขายได้นั้นจะเป็นปัจจัยบวกหรือลบต่อ ราคา!?
สำหรับนักลงทุนที่ไม่คุ้นเคยกับโลกคริปโทฯ ในเดือนธันวาคมปี 2020 Ethereum ได้สร้าง Blockchain ใหม่ที่ชื่อว่า “Beacon Chain” เพื่อทดสอบระบบ “Proof-of-Stake” ซึ่งเป็นฉันทามติรูปแบบ หนึ่งที่ใช้เงินตัวเองเป็นของค้ำประกันแทนการใช้ “Proof-of-Work” ที่ใช้กำลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ซึ่งกินพลังงานไฟฟ้า ซึ่งในตอนนั้นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้คนที่มีเหรียญ ETH สามารถตั้งตัวเป็น “Validator Node” เพื่อรับค่าธรรมเนียมการบันทึกธุรกรรมได้ แต่ข้อจำกัดคือหากต้องการถอนเหรียญ ETH ออกจะ ต้องรออัปเกรดในอนาคตซึ่งก็คือ Shanghai (Shapella) Upgrade ที่จะถึงในช่วงเช้ามืดวันที่ 13 เมษายน นั่นเอง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Ordinals โปรโตคอลสร้าง NFT บนเชน Bitcoin
ปัจจุบัน ETH จำนวน 18 ล้าน (โดยประมาณ) ใน Beacon Chain นี้คิดเป็น 15% ของจำนวน ETH ทั้งหมดที่จะสามารถนำมาขายสู่ตลาดได้ เป็นธรรมดาที่หลายฝ่ายจะกังวลว่า ETH มูลค่ากว่า 34.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจะเทขายสู่ตลาดจนเกิด “Panic Sell”
นายพีรพัฒน์ หาญคงแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน (CIO) บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด หรือ Cryptomind ที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของไทยภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นว่า “Shanghai Upgrade” จะเป็นผลลบต่อราคา ETH ในระยะสั้นเท่านั้น โดยเรา ทราบว่าจะมีอย่างน้อย 2.5 ล้าน ETH หรือ 13% ของ ETH บน Beacon Chain ที่จะปลดทันทีหลังอัปเกรด เสร็จสิ้น นอกจากนี้ ยังอาจมีกลุ่มคนอื่นซึ่งตั้งใจจะถอนอีกเช่นกัน ซึ่งเราจะทราบได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อเสร็จสิ้น อัปเกรดแล้ว อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ ETH จะไม่ได้ออกมาก้อนใหญ่ทันทีในวันแรก แต่จะมีระบบ Withdrawal Process ที่จะทยอยให้ปลดออก ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะมี ETH ไม่เกิน 3 แสนเหรียญทยอย ปลดล็อกในช่วง 5 วันแรก แล้วหลังจากนั้นจะมี ETH ประมาณ 61,000 ETH ทยอยปลดเป็นระยะเวลา ประมาณ 2 เดือน
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : อัปเกรด Ethereum shapella ก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ Ethereum
สำหรับมุมมองระยะยาวแล้ว เรามอง Shanghai Upgrade เป็นปัจจัยบวกด้วยปัจจัยหลาย ประการ
- นักลงทุนกล้าเป็น Validator Node มากยิ่งขึ้นจากการเปิดให้ถอนออกได้แล้ว
- อัตราส่วน Staking Ratio ยังต่ำเมื่อเทียบกับ Blockchain ตัวอื่น ๆ
- รายได้จากการเป็น Validator Node ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ต่ำ
- ในอนาคตจะมีการหารายได้เพิ่มเติมจากการเป็น Validator Service ให้แพลตฟอร์มอื่นๆ
- เปิดทางให้อัปเกรดถัดไปเริ่มต้นต่อได้
- เหรียญ ETH ที่ถอนออกอาจนำกลับไปลงทุนใน Liquid Staking ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยอำนวยความ สะดวกในการเป็น Validator Node ของ Ethereum
โดยสรุปแล้ว Shanghai Upgrade ของ Ethereum ในครั้งนี้เราค่อนข้างมองเป็นพัฒนาการเชิง บวกครั้งใหญ่อีกครั้งหลังจาก The Merge ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา หากราคา ETH มีการ ย่อลงในช่วงนั้นและตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง CPI ที่ออกมาในคืนวันที่ 12 เมษายนออกมาไม่ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
Cryptomind มองเป็นจังหวะดีในการสะสม ETH เพิ่มจากความ Panic ของตลาด โดย กรอบแนวรับ–แนวต้านที่มองไว้ในเชิง Technical Analysis คือ ไม่ควรปิดแท่งวันต่ำกว่า 1,730 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านที่ 2,030 ถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 เดือน
————————————————————–
คอร์สออนไลน์ “ทำกำไรทุกสภาวะในตลาดคริปโต” Ricco Wealth X SkillLane
คอร์สเดียวที่ให้ความรู้ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่รอบด้านครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคโนโลยี การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค การทำความเข้าใจจิตวิทยาตลาดตลอดจนหลักการ Money Management เพื่อให้สามารถลงทุนและทำกำไรในตลาดนี้ได้ในระยะยาวไม่ว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง
สิทธิพิเศษสำหรับผู้เรียนคอร์สนี้ได้เข้ากลุ่มพิเศษของแอดมินที่จะมีการ Live เฉพาะสมาชิกทุกสัปดาห์ ถ้าหากไม่เข้าใจเนื้อหาสามารถสอบถามได้ในไลน์กลุ่มพิเศษของสมาชิกคอร์สหรือถามสดได้ในการ Live
ชำระเงินแล้วเข้าที่ลิงค์นี้ หรือ แอด Line OA: Ricco Wealth ส่งหลักฐานเพื่อรอให้แอดมินอนุมัติเข้ากลุ่มต่อไป