สินค้าโภคภัณฑ์หรือ Commodity คือ โปรดักต์การลงทุนที่ซื้อขายกันทั่วโลกภายใต้ราคาเดียวกัน นอกเหนือจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่คุ้นเคยกันอย่างทองคำ น้ำมันดิบและค่าเงิน ยังมีโปรดักต์อื่นๆที่สามารถจะซื้อขายได้เช่นกัน แม้ว่าอาจจะไม่คุ้นเคยในการซื้อขายเพื่อการลงทุนแต่ก็เป็นโปรดักต์ที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
แร่โลหะ
คือวัตถุดิบหลักในภาคการผลิตอุตสาหกรรมต่างๆ บางครั้งจะเรียกว่า Hard Commodity อย่างเช่นแร่เหล็ก (Ore) แพลตินัม (Platinum) พาลาเดียม (Paladium) รวมถึงแร่เงิน (Silver) ซึ่งมีคุณลักษณะที่ใกล้เคียงกับทองคำแต่มีราคาที่ต่ำกว่า
หลักการวิเคราะห์ทิศทางของกลุ่ม Hard Commodity จะใช้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลักเนื่องจากสินค้าเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของภาคการผลิต หากไม่มีความต้องการใช้วัตถุดิบเหล่านี้ขึ้นมากก็จะส่งผลต่อราคาที่อาจจะปรับตัวลดลง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : “ทองคำ-น้ำมัน-ค่าเงิน” สามสินทรัพย์ยอดฮิตในโลกการลงทุน
พลังงาน
นอกเหนือจากน้ำมันดิบซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักแล้วแล้วยังมีพลังงานรูปแบบอื่นอย่างเช่นก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas),ถ่านหิน (Coal) ไปจนถึงแร่ธาตุต่างๆที่สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานซึ่งสามารถนำมาซื้อขายได้ โดยตลาดซื้อขายหลักจะอยู่ในสหรัฐฯและอังกฤษ
พลังงานในกลุ่มนี้อาจจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจแตกต่างไปจากน้ำมันดิบเนื่องจากมีปัจจัยแวดล้อมอื่นที่แตกต่างออกไปไม่ว่าจะเป็นดินฟ้าอากาศที่อาจส่งผลต่อการผลิตพลังงานแต่ภาพรวมของพลังงานรูปแบบนี้จะไม่ค่อยอิงกับการเมืองระหว่างประเทศเท่ากับน้ำมันดิบ
สินค้าเกษตรและอาหาร
สินค้าทางการเกษตรและอาหารหรือ Soft Commodity ที่คุ้นเคยกันมีตั้งแต่
ยางพารา (Rubber) น้ำตาล (Sugar) น้ำมันปาล์ม (Palm Oil) รวมถึงกาแฟ ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าวและเนื้อสัตว์ต่างๆ พูดง่ายๆคือเป็นต้นทุนหลักในการผลิตอาหาร
ตลาดหลักที่เป็นแหล่งซื้อขายสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเอเชียไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นสิงคโปร์ขณะที่ประเทศผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้จะอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกาใต้เนื่องจากสภาวะอากาศที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก
หลักการวิเคราะห์ราคาสินค้าทางการเกษตรมักเกี่ยวกันกับภาวะดินฟ้าอากาศอย่างเช่นหากทำการเพาะปลูกได้น้อยลงแต่มีความต้องการเข้ามามากราคาอาจจะปรับตัวสูงขึ้นรวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจโลก
ดัชนีอ้างอิงต่างๆ
นอกจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถจับต้องได้แล้วยังมีสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทที่อาจจะไม่มีตัวตนที่จับต้องได้แต่อยู่ในรูปแบบของดัชนีอ้างอิงที่สามารถจะซื้อขายได้อย่างเช่นดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ซึ่งอิงกับอัตราค่าขนส่งทางเรือ หรือดัชนีพลังงานทางเลือกอย่างพลังงานลม นิวเคลียร์และแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถที่จะซื้อขายในรูปแบบ Futures ได้ แต่อาจจะต้องอาศัยความชำนาญในอุตสาหกรรมนั้นๆเป็นพิเศษเนื่องจากมีความเฉพาะด้านสูง
เรียกได้ว่าสินค้าโภคภัณฑ์หรือ Commodity คือ โปรดักต์การลงทุนทางเลือกนอกเหนือจากหุ้นและทองคำที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในภาวะที่สินทรัพย์หลักไม่เคลื่อนไหวมากนัก แต่ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะด้านสูงในการที่จะวิเคราะห์ตลาด
สนใจเรียนหลักสูตรออนไลน์ด้านการลงทุนคลิ๊กที่นี้