Options คือ ตราสารอนุพันธ์รูปแบบหนึ่งที่จะเป็นเครื่องมือช่วยให้นักเทรดมีทางเลือกในการตัดสินใจมากขึ้นและยังสามารถใช้ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาดไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น ขาลง ออกข้าง สามารถเลือกได้ทั้งการเก็งกำไรและประกันความเสี่ยง
เมื่อเทียบกับโปรดักต์ประเภทอนุพันธ์ที่มีความใกล้เคียงกันอย่าง Futures ตราสารอย่าง Options อาจจะเข้าใจได้ยากกว่าเพราะคุณสมบัติที่มีความซับซ้อนมากกว่า บทความนี้จะช่วยให้มีความเข้าใจในตราสารประเภทนี้มากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ควบคุมความเสี่ยงในการเทรดด้วย Risk Reward Ratio
Options คือสิทธิในการซื้อสัญญา
Options แปลว่าทางเลือก ดังนั้นในเชิงการลงทุนเราจะเรียกได้ว่าคือการซื้อขายสัญญาสิทธิในสินทรัพย์ต่างๆหรือประกันว่าเราจะได้สิทธิในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในจำนวนและระยะเวลาตามที่ได้ตกลงกันไว้
โดยผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินค่าทำสัญญาไว้ล่วงหน้าโดยไม่จำเป็นต้องลงเงินทั้งหมด โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้สิทธิหรือไม่ใช้สิทธิก็ได้ โดยหากต้องการใช้สิทธิ ผู้ขายจะต้องทำตามสัญญา
ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราต้องการซื้อสินค้าใดสินค้าหนึ่งอย่างเช่นบ้านจัดสรร เราสามารถทำสัญญาในการเข้าซื้อไว้ล่วงหน้า เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท เราจ่ายเงินค่าทำสัญญาไปก่อนอาจจะ 10% ของราคาสินค้าเท่ากับเราจ่ายค่าสัญญาจองนั้นไว้ 100,000 บาท
ทั้งนี้เราสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิมาซื้อบ้านหลังนั้นในราคาที่เหลือ 900,000 บาท ได้ แต่ถ้าเวลาผ่านไปราคาบ้านที่เราจองสิทธิไว้ราคาปรับตัวขึ้น เรามีสิทธิที่จะไม่ใช้สิทธิซื้อบ้านหลังนั้น แต่นำใบสัญญาที่มีมูลค่า 100,000 ไปขายต่อให้กับผู้อื่นได้ซึ่งอาจจะเสนอซื้อมาในราคา 120,000 บาท ถ้าเราทำการขายสัญญานั้นไปเราก็จะได้กำไรมา 20% แต่หมดสิทธิที่จะซื้อบ้านหลังนั้นแล้วเพราะได้ขายสัญญาให้คนอื่นไปแล้ว
โดยหากเรามองว่าทิศทางราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวขึ้นก็เลือก Buy Call Options แต่ถ้ามองว่าราคาสินทรัพย์จะเป็นขาลงก็ให้ทำการ Buy Put Options
ฝั่งของผู้เสนอขายสัญญา
นอกเหนือจากการซื้อสัญญาแล้วเรายังสามารถที่จะอยู่ในฝั่งของผู้ขายสัญญา Options ได้เช่นกัน โดยรูปแบบจะเป็นการกลับข้างจากฝั่งผู้ซื้อซึ่งเราจะต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงอย่างเช่นหุ้นไว้ในพอร์ตของเราก่อนจากนั้นก็จะสามารถเสนอขายสัญญา Options ให้กับฝั่งผู้ซื้อได้
โดยการอยู่ฝั่งขายเราจะเรียกว่าฝั่ง Sell โดยถ้าหากเรามองว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวขึ้น เราสามารถนำสินทรัพย์นั้นไปออกเป็นสัญญา Buy Call Options และเก็บค่าธรรมเนียมเป็นรายได้
แต่ถ้าเรามองว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวลงก็ทำการขายสัญญา Sell Put Options ก็จะได้รับผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมในการทำสัญญาจากผู้ที่คิดว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวขึ้น แต่ถ้าราคาสินทรัพย์นั้นลงมาถึงราคาใช้สิทธิเราก็มีโอกาสจะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆในราคาที่เหมาะสม
กล่าวคือถ้าหากเราเลืออยู่ฝั่งเสนอขายสัญญารูปแบบรายได้ของเราจะไม่ใช่ Capital Gain แต่จะเป็นค่าทำสัญญาซึ่งอาจจะเป็นเงินจำนวนไม่มากเท่ากับการเก็งกำไรเลือกทิศทาง แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและค่อนข้างจะเป็นในทาง Passive Income
องค์ประกอบของสัญญา Options
องค์ประกอบเบื้องต้นของสัญญา Options จะประกอบไปด้วย
Buy-Sell หรือการเลือกว่าเราจะเป็นฝั่งผู้ซื้อสัญญา (Buy) Options หรือจะเป็นผู้เสนอขายสัญญา (Sell) Options
Call Options-Put Options Call Options คือสิทธิที่จะซื้อหรือมองว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะขึ้น ส่วน Put คือสิทธิที่จะขายหรือมองว่าสินทรัพย์อ้างอิงนั้นๆจะลง
Strike Price คือราคาตกลงที่จะซื้อหรือขายสัญญา Options
Numbers of Contract จำนวนสัญญาของ Options
Expired Date วันที่สัญญา Options จะหมดอายุซึ่งจะต้องชำระค่าสัญญา
Premium Price คือมูลค่าของสัญญา
จำกัดการขาดทุนและสร้างผลตอบแทนได้ในแนวโน้ม Sideway
สิ่งที่ Options มีมากกว่าโปรดักต์การลงทุนอื่นโดยเฉพาะ Futures ก็คือการจำกัดผลขาดทุน เพราะถ้าหากเราคาดการณ์ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงผิดทาง ผลขาดทุนที่จะเกิดขึ้นคือการสูญเสียค่าทำสัญญา เช่นซื้อสัญญา Options ไปเป็นเงิน 10,000 บาท ถ้าหากราคาลดลงจนคิดว่าไม่น่าจะกลับมามีกำไรได้ก็เพียงปิดสัญญาไปก็จะเสียเงินมากที่สุดก็คือ 10,000 บาทเท่านั้น
แต่ถ้าเป็น Futures ถ้าหากราคาสินทรัพย์อ้างอิงผิดทางและขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆจะต้องวางเงินมาร์จินมากขึ้นและถ้าหากราคาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนต้องบังคับปิดสถานะ เราอาจจะสูญเสียเงินในพอร์ตไปทั้งหมดเลยก็เป็นได้
นอกจากนี้ยังถือเป็นการ Leverage ผลตอบแทนได้เช่นกันถ้าหากคาดการณ์ราคาถูกทาง เนื่องจากใช้เงินลงทุนไม่มากจากการจ่ายเพียงแค่ซื้อสัญญา เวลาที่มีกำไรก็จะได้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการต้องซื้อหุ้นเต็มจำนวน
ขณะเดียวกันหากเราเลือกเป็นฝ่ายขายสัญญา Sell Call Options เวลาที่เราหุ้นยังไม่ปรับตัวขึ้นไปจนถึงเป้าหมายในการทำกำไรเรายังสามารถได้ผลตอบแทนจากการขายสัญญา Options ให้กับผู้ซื้อและได้ค่าทำสัญญาตลอดระยะเวลาของสัญญา
กล่าวคือ Options เป็นโปรดักต์ที่มีทางเลือกในการทำกำไรได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น ขาลงหรือไม่มีทิศทางและยังช่วยจำกัดความเสี่ยงได้อีกด้วย
สินค้าอ้างอิง Options และจะซื้อขายได้ที่ไหน
ปัจจุบันนี้ได้มีการนำสินทรัพย์การลงทุนต่างๆมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิงในสัญญา Options ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นหุ้นรายตัว ดัชนีตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงสกุลเงินดิจิทัล โดยความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับสินค้าที่นำมาอ้างอิง
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อขาย Options สามารถเทรดได้ผ่านโบรกเกอร์ที่เปิดให้สามารถเทรด Options ได้ โดยตลาดหลักของการซื้อขาย Options จะอยู่ที่ตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีสภาพคล่องซื้อขายมากพอ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆอาจจะมี Options ให้เป็นทางเลือกเช่นกันแต่โดยรวมแล้วนักเทรดจะโฟกัสที่ Options ในตลาดหุ้นสหรัฐฯเป็นหลัก
ทั้งนี้ Options มีอยู่ด้วยกันสองรูปแบบหลักคือ American Options ผู้ซื้อ options สามารถใช้สิทธิ์ในเวลาใดก็ได้ก่อนวันหมดอายุสัญญา (Expiration date) และอีกแบบคือ European Options หมายถึง ผู้ซื้อ options สามารถใช้สิทธิ์ ณ วันสุดท้ายของอายุสัญญาเท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายจึงต้องตรวจสอบประเภทของ Options ที่ตรงกับความถนัดของตัวเองเสียก่อน
Options คือ ตราสารอนุพันธ์ที่มีความซับซ้อนสูง ผู้สนใจควรต้องศึกษาวิธีการใช้งานจนมีความคล่องตัวเสียก่อนที่จะลงสนามเทรดจริง ถ้าหากมีความเข้าใจในวิธีการนำไปใช้ให้เหมาะสมกับภาวะตลาดแล้วนักเทรดก็จะสามารถนำไปใช้ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยบทความต่อไปจะเป็นการลงรายละเอียดของวิธีการทำกำไรทั้งในส่วนของฝั่งซื้อและฝั่งขาย Options
ศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้