การลงทุนต่างประเทศ อาจจะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวและไม่คุ้นเคย ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจจะเกิดข้อสงสัยต่างๆจนนำไปสู่ความไม่กล้าที่จะเริ่มต้นลงทุน ทั่วไปแล้วจะมีข้อสงสัยสำคัญอยู่ด้วยกัน 6 ข้อ เรามาเคลียร์ข้อสงสัยต่างๆนี้กันดู
เทรดหุ้นต่างประเทศผิดกฎหมายหรือไม่??
คำตอบ: ไม่ผิด ไม่มีกฎหมายข้อใดที่ระบุว่าคนไทยไม่สามารถลงทุนหรือซื้อขายหุ้นต่างประเทศแต่อย่างไรนอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้อีกด้วย โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดให้คนไทยสามารถลงทะเบียนเพื่อขออนุมัติในการนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้โดยมีขั้นตอนไม่ละเอียดมากนัก
อย่างไรก็ตามถ้าหากเราประสบปัญหากับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ลงทุนด้วย เราไม่สามารถขอความช่วยเหลือใดๆกับหน่วยงานด้านการเงินของไทยได้เลย นี่คือความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนต้องเข้าใจด้วย
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : “Tiger Brokers” Wealth Tech เปิดโลกการลงทุน Global Stock
จะโอนเงินไปเทรดได้อย่างไร??
คำตอบ:สำหรับโบรกไทยที่เปิดให้สามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ก็สามารถฝากเงินบาทผ่านทางโบรกฯได้เลย แต่ถ้าเป็นโบรกฯต่างประเทศ ถ้าหากไม่มีบัญชีธนาคารต่างประเทศก็สามารถโอนผ่านบัญชีธนาคารไทยได้เลย โดยจะต้องลงทะเบียนกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนแต่มีวงเงินจำกัดต่อปี
ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ลงทุนในตราสารต่างประเทศได้คนละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะยึดตามเรท ณ วันที่เราทำการโอนโดยใช้เวลาเพียงแค่วันเดียว
มีสิทธิได้ปันผลกับประชุมผู้ถือหุ้นหรือไม่??
คำตอบ:มี โดยในส่วนของเงินปันผลจะได้รับเมื่อถือหุ้นจนถึงวันที่ได้รับสิทธิเหมือนกับตลาดหุ้นไทย แต่วิธีการรับเงินจะต่างออกไปคือจะเป็นการได้รับเงินผ่านทางบัญชีโบรกเกอร์หรือเข้ามาในพอร์ตของเราโดยตรงจะไม่ได้รับผ่านทางบัญชีธนาคาร
ส่วนของสิทธิการประชุมผู้ถือหุ้นก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกันหากต้องการจะเข้าร่วม เพียงแต่ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศจะไม่มีการส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นเหมือนกับตลาดหุ้นไทยจะส่งเป็นแค่ statement ออนไลน์มา แล้วเราต้องไปติดตามต่อเอง
ต้องเสียภาษีหรือไม่??
คำตอบ:ในส่วนของภาษีเงินปันผลจะถูกหัก ณ ที่จ่ายเหมือนกับตลาดหุ้นไทยตามอัตราของแต่ละประเทศ ถ้าเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯจะอยู่ที่ 15% ตลาดหุ้นจีน 10% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและเวียดนามไม่เสียส่วนภาษี Capital Gain Tax ไม่ต้องเสีย
ทั้งนี้หากเรามีการโอนเงินกลับมาไทยจะต้องเสียภาษีโดยถือเป็นรายได้ที่ต้องนำไปยื่นกับสรรพากรทุกๆปีเหมือนกับรายได้อื่นๆ แต่ถ้าเราไม่โอนกลับมาในปีบัญชีนั้นๆเลยจะไม่เสีย
ตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าเราโอนเงินไปลงทุนต่างประเทศ 1 ล้านบาท แล้วนำกลับมา 1 ล้านบาทในปีบัญชีนั้นเลยแบบนี้ไม่เสียภาษี แต่ถ้าออกไป 1 ล้านบาท แล้วนำกลับเข้ามาเกินเป็น 1 ล้าน 2 แสนบาทในปีบัญชีเดียวกัน ส่วนที่เกินมาต้องจ่ายภาษีโดยเอาเข้าไปในระบบภาษีที่เรายื่นปกติทุกปี ดังนั้นเราสามารถเลื่อนนำเงินกลับเข้าธนาคารไทยไปเป็นปีบัญชีต่อไปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องนำมายื่นภาษี
เงินลงทุนขั้นต่ำเท่าไร
คำตอบ : ถ้าเราเปิดบัญชีเงินสดหรือ Cash Balance ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนเท่าไรก็ได้ เพียงแต่บางโบรกเกอร์อาจจะมีเงื่อนไขว่าต้องฝากเงินในพอร์ตไว้ระดับหนึ่งถึงจะได้สัญาณซื้อขายแบบเรียลไทม์
ตัวอย่างเช่น Interactive Broker ต้องมีเงินประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐ หรือโบรกน้องใหม่อย่าง Tiger Brokers ก็ประมาณ 2,000 เหรียญฯ เห็นได้ว่าเป็นวงเงินที่ไม่ได้สูงมาก อีกทั้งปัจจุบันโบรกฯต่างประเทศไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดูแลพอร์ตอีกแล้ว
หากกังวลว่าจะไม่สามารถซื้อหุ้นที่ราคาสูงๆได้ สำหรับตลาดต่างประเทศเราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นซื้อที่ 100 หุ้นเหมือนกับตลาดหุ้นไทย แต่สามารถเริ่มได้ที่ 1 หุ้นเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อหุ้นได้ตามจำนวนเงินที่เลือกได้ เช่นหุ้น TESLA ราคาหุ้นละ 1,000 ดอลลาร์ เรามีเงินไม่พอเราก็เลือกซื้อเพียง 100 ดอลลาร์ ก็จะได้หุ้น TESLA มา 0.10 หุ้น หรือที่เรียกว่า Fractional Stock
จะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ที่เราลงทุนด้วยมีความน่าเชื่อถือ
คำตอบ:ปัจจุบันมีโบรกเกอร์อยู่มากมายให้เลือกเปิดบัญชีแต่ก็มีโบรกเกอร์จำนวนมากที่ไม่มีความน่าเชื่อถือหรืออาจจะเข้าข่ายหลอกลวงได้ ก่อนจะเลือกเปิดบัญชีจึงต้องมีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกเสียก่อน
ประการแรกเลือกลงทุนกับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่คุ้นเคย ตั้งอยู่ในประเทศที่มีความน่าเชื่อถืออย่างสหรัฐฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่สำคัญต้องมีไลเซ่นส์ทางการเงินที่ได้รับการยอมรับและถ้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นด้วยจะยิ่งดี
สำหรับโบรกเกอร์ระดับโลกก็จะมีอย่าง Interactive Brokers, TD Ameritrade, Charles Schwab หรือโบรกใหม่มาแรงตอนนี้ก็จะเป็น Tiger Brokers
วิธีการที่จะมั่นใจได้ว่าโบรกเกอร์ที่เราเลือกนั้นได้มาตราฐานหรือไม่ หลักการสำคัญคือเวลาที่เราโอนเงินเข้าไปให้เช็คว่าชื่อบัญชีเป็นชื่อของเราเองหรือเปล่า ถ้าหากชื่อบัญชีไม่ใช่ชื่อเราหรือไม่สามารถที่จะจัดการบัญชีด้วยตัวเองได้ให้คิดไว้ก่อนว่ามีความเสี่ยง
การลงทุนต่างประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไปเพราะปัจจุบันกฎระเบียบต่างๆได้มีการปรับให้สามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นแทบไม่ต่างอะไรกับตลาดหุ้นไทยที่สำคัญคือไม่ได้ใช้เงินเยอะมากอย่างที่คิดอีกด้วย
