SCB 10X บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ เตรียมพร้อมปูพรมให้ความรู้ โลกการเงินยุคใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ผ่านเวทีสัมมนาระดับโลกในรูปแบบออนไลน์ “REDeFiNE Tomorrow 2022 : DeFi & Web 3.0 Virtual Summit” ที่ได้รวบรวมองค์ความรู้ด้าน Decentralized Finance (DeFi) และ Web 3.0 อย่างเข้มข้น ขนทัพกูรูแถวหน้าระดับโลกที่คร่ำหวอดในวงการ DeFi และผู้นำนวัตกรรมด้าน Web 3.0 ที่มีชื่อเสียงมากมาย
ร่วมเจาะลึกทุกประเด็นสำคัญ ครอบคลุมทุกแง่มุมทิศทางโลกการเงินไร้ศูนย์กลาง และโอกาสจาก Web 3.0 ในอนาคต แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรงที่เคยเผชิญกับวัฏจักรเศรษฐกิจต่างๆ พร้อมหารือการปรับตัวในช่วงตลาดขาลง หรือ “ตลาดหมี” (Bear Market) เพื่อเตรียมพร้อมวางกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสใหม่ๆในช่วงตลาดผันผวนได้อย่างทันท่วงที ผู้ที่สนใจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกสามารถร่วมเข้าฟังได้ฟรี! ในวันที่ 21 – 22 กรกฎาคม2565
นางมุขยา พานิช (ใต้) Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “SCB 10X เล็งเห็นว่าในช่วงตลาดขาลง หรือ “ตลาดหมี” นั้นเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ Decentralized Finance (DeFi) และ Web 3.0 ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาและขยายระบบนิเวศ (Ecosystem) รวมถึงเตรียมความพร้อมเพื่อปูทางสู่นวัตกรรมการเงินแห่งโลกอนาคต DeFi และ Web 3.0 นั้นจึงถูกคาดการณ์ว่าจะมีการพัฒนาต่อยอด ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆขึ้นมากมายอย่างมีนัยสำคัญ
เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่งในการจัดงานสัมมนา SCB 10X “REDeFiNE Tomorrow 2022 : DeFi & Web 3.0 Virtual Summit” ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 21 – 22 กรกฎาคม 2565 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในโลกการเงินแห่งอนาคต พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รับฟังคำแนะนำจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก เพื่อเตรียมความพร้อมกับภาวะความผันผวนของตลาดในขณะนี้”
โดยปีนี้นับเป็นปีแห่งความท้าทายของตลาด DeFi เห็นได้จากมูลค่าของสินทรัพย์ (Total Value Locked (TVL)) ที่ตกลงถึง 60% จากประมาณ 250 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม 2564 เป็น 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น ปัญหาของเศรษฐศาสตร์มหภาคทั่วโลก และตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ผันผวน อย่างไรก็ตามการเติบโตของปริมาณมูลค่าของสินทรัพย์ใน DeFi นั้นมีการเติบโตมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งด้วย Use-Case ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เห็นได้ในปัจจุบัน
วิทยากรที่น่าสนใจในงาน SCB 10X “REDeFiNE Tomorrow 2022 : DeFi & Web 3.0 Virtual Summit” ได้แก่
- ไมเคิล อาร์ริงตัน (Michael Arrington), ผู้ก่อตั้ง Arrington Capital, บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
- จอห์น วู (John Wu) ประธานกรรมการ Ava Labs, Avalanche, บล็อกเชน Layer 1 ที่มีความรวดเร็ว ความเสถียร และมีความปลอดภัยสูง โดยผู้พัฒนาสามารถสร้างบล็อกเชนเครือข่ายย่อยภายใต้ Avalanche ได้
● โรเบิร์ต เลชเนอร์ (Robert Leshner) ผู้ก่อตั้ง และ CEO แห่ง Compound, แพลตฟอร์มDecentralized Finance (DeFi) ที่ให้บริการระบบกู้ยืมแก่นักลงทุน
- เวย์น ฉาง (Wayne Chang) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Spruce Systems, บริษัทสตาร์ทอัพผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์บนโลกดิจิทัล (Decentralized Identity) ที่ให้บริการแบบครบวงจร (End-To-End) บนบล็อกเชน และสามารถรองรับการใช้งานได้หลาย Chain (Multichain)
- สตีเวน โกลด์เฟเดอร์ (Steven Goldfeder) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Offchain Labs และ Arbitrum, โดยArbitrum ถูกสร้างขึ้นโดย Offchain Labs เป็นบล็อกเชน Layer 2 พัฒนาขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานSmart Contract บนบล็อกเชนของ Ethereum ทำให้ธุรกรรมมีความรวดเร็วและประหยัดค่าธรรมเนียม
- ดิโอโก้ โมนิก้า (Diogo Monica), ประธานกรรมการ และผู้ร่วมก่อตั้ง Anchorage, แพลตฟอร์มรับฝากสกุลเงินดิจิทัลแก่นักลงทุนสถาบันที่ได้รับใบอนุญาตแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา
- ซันนี่ อาการ์วาล (Sunny Aggarwal) ผู้ร่วมก่อตั้ง Osmosis Labs, ระบบตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์(Decentralized Exchange, DEX) และศูนย์กลางสภาพคล่องอัตโนมัติ (Automated Market Maker, AMM) ที่ใหญ่ที่สุดในในระบบนิเวศของ Cosmos Blockchain
- สตีเฟน เฮส (Stephen Hess) CEO แห่ง Metaplex Studios, แพลตฟอร์มซื้อขายผลงานดิจิทัล หรือ NFT Marketplace ที่พัฒนาบน Solana Blockchain
- อเล็กซ์ สวาเนวิก (Alex Svanevik) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Nansen, แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบนระบบบล็อกเชนที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมแบบ On-Chain จากฐานข้อมูลบน Blockchain ช่วยให้ผู้ใช้บริการและนักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลจาก Nansen เพื่อวิเคราะห์และสร้างโอกาสในการลงทุนได้
- ไมเคิล ชอลอฟ (Michael Shaulov) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Fireblocks, แพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยระดับนักลงทุนสถาบัน (Institutional-grade custody) ที่ให้บริการดูแลความปลอดภัยด้านโครงสร้างพื้นฐานในการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านโครงสร้างเทคโนโลยี MPC-CMP based wallet และเครือข่าย Whitelisted Wallet ของคู่สัญญาที่ได้รับการรับรอง
- เคน วอริก (Kain Warwick) ผู้ก่อตั้ง Synthetix, แพลตฟอร์ม DeFi ที่ผู้ใช้สามารถซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivative) บนบล็อกเชน ที่อิงราคาจากตราสารอนุพันธ์ที่ซื้อขายกันจริงในตลาดโลก โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางและไม่ต้องถืออนุพันธ์จริงๆ
- เจเรมี อัลแลร์ (Jeremy Allaire) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Chairman และ CEO แห่ง Circle, บริษัทผู้ออกเหรียญ USDC ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกอยู่กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1:1 หรือเรียกว่า Stablecoin โดยผู้ใช้งานสามารถใช้ USDC ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือซื้อขายสินค้า
- ซานดีป เนลวัล (Sandeep Nailwal) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ COO แห่ง Polygon, บล็อกเชน Layer 2 พัฒนาขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ Ethereum Blockchain โดยประมวลผลธุรกรรมด้วยวิธี Proof of Stake ทำให้ธุรกรรมมีความรวดเร็วและประหยัดค่าธรรมเนียม
- คอนสแตนติน ลูมาชุก (Konstantin Lomashuk) ผู้ร่วมก่อตั้ง Lido, แพลตฟอร์ม Liquid Staking Pool ที่แก้ปัญหาสภาพคล่องของการ Proof of Stake โดยผู้ใช้งานรายย่อยสามารถ Stake และเป็น Validator ได้
- ไมเคิล อีโกรอฟ (Michael Egorov) ผู้ก่อตั้ง และ CEO แห่ง Curve.fi, แพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) ที่ออกแบบมาสำหรับ Stablecoin มากกว่า 10 เครือข่ายบล็อกเชน
- ชิติ รัสโตจิ มังกานี (Shiti Rastogi Manghani) Chief Marketing Office แห่ง STEPN, ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มMove-to-earn บน Solana Blockchain ที่นำ SOCIAL-FI และ GAME-FI มาไว้ด้วยกัน ผู้ใช้งานสามารถได้รับผลตอบแทนเป็น Token จากการออกกำลังกายด้วยการเดินหรือวิ่ง
- ฟรานเชสโก้ จอร์จ เรนซี (Francesco George Renzi) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Superfluid, Protocol ให้บริการด้านธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีแบบอัตโนมัติ เช่น การโอนกระแสเงินสดเพื่อจ่ายเงินเดือนตามเวลาที่กำหนดโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโอนเงินตามเวลาอย่างต่อเนื่อง
- ทชา ปัญญาเนรมิตดี (Tascha Punyaneramitdee) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Alpha Venture DAO, เป็นองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Autonomous Organization, DAO) ที่เป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ที่เปิดให้ผู้ใช้งานเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา และนำเสนอแนวทางในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศของ Web 3.0
- ลอย ลู่ (Loi Luu) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Kyber Network, แพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) และศูนย์กลางสภาพคล่องอัตโนมัติ (AMM) บนบล็อกเชน ที่เชื่อมสภาพคล่องจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลในราคาที่ดีที่สุด
- เบริล ลี (Beryl Li) ผู้ร่วมก่อตั้ง Yield Guild Games (YGG), เป็นองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ (DAO) ที่ลงทุนในNon-Fungible Token (NFTs) ของ Games ต่างๆบนบล็อกเชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเสมือนจริงและเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุด รวมถึงมีการแบ่งปันรายได้กับสมาชิก
- ไมเคิล โกรนาเกอร์ (Michael Gronager) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Chainalysis, บริษัทวิเคราะห์เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่พัฒนาเครื่องมือและให้บริการตรวจสอบ คัดกรอง และติดตามธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ผิดกฎหมาย แก่หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน ประกันภัย และบริษัทรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ กว่า 70 ประเทศทั่วโลก
- แอนทอน แคทซ์ (Anton Katz) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEOแห่ง Talos, บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ลูกค้านักลงทุนสถาบันในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกและสามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกรรมแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ
- ทารูน ชิทรา (Tarun Chitra), ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Gauntlet, แพลตฟอร์มที่จำลอง Financial และ Risk Modeling สำหรับ DeFi Protocol บนบล็อกเชน ช่วยให้นักพัฒนา สามารถจำลองการทำงานของ Protocol เพื่อลดความเสี่ยงในทุกช่วงสภาวะตลาด
- เซอร์เกย์ กอร์บูนอฟ (Sergey Gorbunov) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CEO แห่ง Axelar, เครือข่ายกระจายอำนาจที่เชื่อมต่อแต่ละบล็อกเชน ทำให้การสื่อสารและการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนทำได้ง่ายขึ้น
- 0xMaki Core Team แห่ง LayerZero, interoperability protocol ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อบล็อกเชนที่แตกต่างกัน โดยการใช้งาน Oracle ที่กระจายศูนย์ เพื่อความเร็ว ความปลอดภัย และความประหยัดต้นทุน และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งAura Finance, โปรโตคอลที่สร้างขึ้นบน Balancer Protocol ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ให้บริการสภาพคล่อง และผู้ที่Stake เหรียญ BAL
- ไวยภาพ ไสนี หรือ วาซ่า (Vaibhav Saini or Vasa), Lead Developer แห่ง GEM.xyz, แพลตฟอร์มที่รวบรวมตลาดซื้อขาย NFT (NFT Marketplace Aggregator) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและซื้อขาย NFT ได้จากทุกตลาด โดยช่วยประหยัดค่าธรรมเนียม และรวบรวมข้อมูลจากทุกตลาด NFT เข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว
- เซบาสเตียน บอร์เกต์ (Sébastien Borget) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ COO แห่ง The Sandbox, แพลตฟอร์มโลกเสมือนที่ผู้เข้าร่วมสามารถสร้างและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึง NFT เและสามารถสร้างรายได้จากสินทรัพย์ใน The Sandbox Metaverse
- เจสัน ชอย (Jason Choi) นักลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี และผู้จัด Podcast รายการ “The Blockcrunch”
- ดาไรอัส ซิต (Darius Sit) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ CIO แห่ง QCP Capital, บริษัทผู้ให้บริการการลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแก่นักลงทุนสถาบันแบบครบวงจร
- ฟิลลิป กิลเลสพี (Phillip Gillespie) Group CEO แห่ง B2C2 และ CEO แห่ง B2C2 ประเทศญี่ปุ่นบริษัทผู้ให้บริการสภาพคล่องทางการเงินสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแก่นักลงทุนสถาบัน
- คริสเตียน เซย์เฟิร์ต (Christian Seifert) Head of Research แห่ง Forta, เครือข่ายตรวจจับ รักษาความปลอดภัย และตรวจสอบการปฏิบัติงานของกิจกรรมบนระบบบล็อกเชนแบบเรียลไทม์
- นิโคส อันดริโกเจียนโนปูลอส (Nikos Andrikogiannopoulos) ผู้ก่อตั้ง และ CEO แห่ง Metrika, ผู้ให้บริการsoftware-as-a-service (SaaS) ที่ช่วยในการวิคราะห์ข้อมูลการทำงานของ blockchain applications, nodes, และprotocols ต่างๆ พัฒนาขึ้นสำหรับคอมมูนิตี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติงาน และติดตามการทำงานของระบบได้ใน real-time
- เรเน่ ไรน์สเบิร์ก (Rene Reinsberg) ผู้ก่อตั้ง และ CEO แห่ง Celo, องค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ต้องการให้การใช้งานแพลตฟอร์ม DeFi สามารถใช้งานได้ผ่านโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว เพื่อเป็นการทำลายข้อจำกัดเรื่องการเข้าถึงDeFi ในยุคปัจจุบันที่ใช้งานได้ผ่านคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
- ลุค เวเบอร์ (Luuk Weber) ผู้ก่อตั้ง Kolektivo, องค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ช่วยเหลือชุมชนให้สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ระดับท้องถิ่น
- แอชลี่ เทย์เลอร์ บัค (Ashley Taylor Buck) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Strategy แห่ง ReSource Network, แพลตฟอร์มบริการสินเชื่อธุรกิจแบบกระจายอำนาจ โดยใช้สินค้าหรือบริการมาค้ำประกัน
- เคร็ก วิลสัน (Craig Wilson) Lead แห่ง Climate Collective, การรวมตัวของกลุ่มบริษัทที่มีความสนใจด้านRegenerative Finance (“ReFi”) ที่สนับสนุนการแปลงสินทรัพย์ทางธรรมชาติให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Tokenization of natural assets) เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของชุมชน
● พอล วีระดิษฐกิจ (Paul Veradittakit) Partner แห่ง Pantera Capital, ธุรกิจเงินร่วมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและบริษัทบล็อกเชนทั่วโลก ตั้งขึ้นในปี 2013
- มาเทียส อิมบาค์ก (Mathias Imbach) ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Group CEO แห่ง Sygnum ธนาคารสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของโลก ก่อตั้งขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อรองรับการเติบโตของ Web 3.0 แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลก
● สตานี คูเลชอฟ (Stani Kulechov) ผู้ก่อตั้ง และ CEO แห่ง AAVE, แพลตฟอร์มบริการให้กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานปล่อยกู้ ยืม และรับดอกเบี้ยในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลูคัส ชอร์ (Lukas Schor) ผู้ร่วมก่อตั้ง Gnosis Safe และ Safe Ecosystem Foundation, แพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการบริหารกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมี DAO เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
- อนาโทลี่ ยาโคเวนโก้ (Anatoly Yakovenko) ผู้ร่วมก่อตั้ง และCEO แห่ง Solana, บล็อกเชน Layer 1 ซึ่งโดดเด่นในด้านความเร็วของการทำธุรกรรม และค่าธรรมเนียมที่ประหยัด
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมรับชม “REDeFiNE Tomorrow 2022 : DeFi & Web 3.0 Virtual Summit” โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและดูรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ https://scb10x.com/ และเข้าลงทะเบียนร่วมงานได้ที่https://www.zipeventapp.com/e/REDEFINE-TOMORROW-2022