Channel Trade คือ การซื้อขายในขณะที่รูปแบบของราคากำลังอยู่ในช่วงที่ออกข้างหรือ Sideway โดยรอซื้อที่ระดับแนวรับสำคัญและรอขายที่แนวต้านสำคัญ ถือเป็นรูปแบบการเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถวางแผนการเทรดล่วงหน้าได้
ปกติแล้วการเทรดในชณะที่แนวโน้มของราคาเป็นขาขึ้นจะมีโอกาสที่จะทำกำไรได้ง่ายที่สุด แต่จริงๆแล้วหากราคาเคลื่อนไหวแบบ Sideway ก็มีโอกาสที่จะทำกำไรได้เช่นกัน โดยจะต้องหาราคาที่เป็นแนวรับสำคัญเพื่อใช้เป็นจุดซื้อรวมถึงหาแนวต้านที่จะใช้เป็นจุดขาย
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 8 ข้อต้องรู้ของการใช้กราฟเทคนิค
ทั้งนี้รูปแบบของราคาที่เป็น Sideway จะต้องมีกรอบของราคาที่กว้างในระดับหนึ่งถึงจะพอใช้แนวทางแบบ Channel Trade ได้ ถ้ากรอบการเคลื่อนไหวแคบเกินไปจะทำให้ไม่มีช่องว่างในการทำกำไรซึ่งควรจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของส่วนต่างระหว่างแนวรับและแนวต้าน
ขณะเดียวกันหากส่วนต่างของกรอบราคามีมากเกินไปจะควบคุมกรอบการเทรดได้ลำบากและทรงกราฟอาจจะไม่มีแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน
Channel Trade เป็นส่วนหนึ่งของ Trade Setup แบบ Swing Trade หรือการเทรดที่หวังผลการทำกำไรระดับเลขสองหลักภายในระยะเวลาตั้งแต่สามวันจนถงระดับสัปดาห์เป็นต้นไป
ตัวอย่างของกราฟราคาจะเห็นได้ว่าที่ระดับ 1.030 ดอลลาร์ ถือเป็นแนวรับที่มีนัยยะสำคัญเนื่องจากทุกครั้งที่ราคาย่อตัวลงมาถึงระดับดังกล่าวจะมีแรงซื้อเข้ามา แต่ขณะเดียวกันที่ระดับราคา 1.492 ดอลลาร์ ก็เป็นระดับราคาที่มีการทดสอบแล้วสองครั้งยังไม่สามารถผ่านไปได้ จึงเป็นจุดที่สามารถขายทำกำไรไปก่อนได้
จนกระทั่งการทดสอบแนวต้านดังกล่าวในครั้งที่สามจึงจะสามารถ Breakout ผ่านไปได้ แนวโน้มราคาจึงเปลี่ยนจาก Sideway กลายเป็นขาขึ้น หากเป็นแบบนี้ก็จะเปลี่ยนจากหน้าเทรดแบบ Channel Trade มาเป็นแบบ Buy On Dip แทน
อย่างไรก็ตามอาจจะมีบางครั้งที่ราคามีการหลุดแนวรับสำคัญลงไปแต่มีการดึงกลับขึ้นมาเทรดอยู่ในกรอบราคาอีกครั้ง หรือแม้แต่การ Breakout ออกจากกรอบแนวต้านไปได้แล้วแต่มีการดึงกลับมาอยู่ใต้เทรนด์ไลน์อีกครั้ง
กรณีแบบนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์ของนักเทรดว่าจะเลือกซื้อขายตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัดหรือจะเผื่อกรณีที่เกิด False Break เอาไว้ไม่เกิน 5% ของราคาที่วางแผนไว้
เนื่องจากสินทรัพย์ที่มีความผันผวนของราคาที่สูงไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrency และ Forex รวมถึงสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายในตลาดโลกหรือมีมากกว่าตลาดเดียวมักจะมีโอกาสที่ราคาจะเกิด Error หรือ False Break ได้เสมอ รวมถึงเกิดจากการทำราคาของเจ้ามือ
จากกราฟตัวอย่างจะเห็นได้ว่าราคามีการทะลุแนวต้านที่เป็นกรอบราคา Sideway ออกไปได้แต่สุดท้ายก็เกิดการ False Break และมีจุดที่ราคาหลุดแนวรับลงไปและมีการดึงกลับขึ้นมาเช่นกันและยังมีการ Breakout ขึ้นไปแต่สุดท้ายก็กลับลงมาอยู่ใต้กรอบราคาอีกครั้ง นักเทรดจึงต้องมีการวางแผนรับมือความผันผวนของราคาไว้เสมอ
นอกจากจะสามารถเล่นแบบ Channel Trade แบบแนวนอนแล้ว ยังมีบางครั้งที่เกิดการสร้างกรอบของราคาที่เป็นแนวเฉียงได้เช่นกันซึ่งยังคงสามารถใช้กลยุทธ์ซื้อขายตามแนวรับและแนวต้านได้เช่นเดิม
บทสรุปของ Channel Trade คือ วิธีการเทรดสำหรับนักเทรดหน้าใหม่หรือผู้ที่ไม่มีเวลาในการเฝ้าหน้าจอเทรดมากนักเพราะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างจะมีความเสี่ยงต่ำรวมถึงสามารถกำหนดแนวรับและแนวต้านได้ล่วงหน้าชัดเจน แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดความ Error ของราคาได้เช่นกัน
ศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้
