Blockchain Layer2 คือ เครือข่ายบล็อกเชนที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความหนาแน่นของเครือข่ายบล็อกเชนหลักเพื่อให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมถูกลง เป็นเทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญในยุคที่เกิดบล็อกเชนรุ่นใหม่ๆและ dApps จำนวนมาก
ยุคเฟื่องฟูของ dApps กับปัญหาค่าธรรมเนียมแพง
Ethereum ถือเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมจากนักพัฒนาและนักลงทุนมาตั้งแต่ยุคที่ ICO เฟื่องฟูมาจนถึงยุคของ DeFi,GameFi และ NFT อย่างไรก็ตาม Ethereum ถือเป็นเชนที่พัฒนามาเป็นเวลานานจนเทคโนโลยีของ Blockchain Layer1 ยุคใหม่ๆอย่าง BNB Chain,Terra Chain,Avalanche ฯลฯ เริ่มพัฒนาขึ้นมาใกล้เคียงกันโดยมีการทำงานที่เร็วกว่า หลากหลายกว่าและค่าธรรมเนียมถูกกว่า
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Flux ผู้ให้บริการ Decentralized Cloud Server ของ Web3
แต่ Ethereum ยังคงเป็นเชนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนบางส่วนที่ถือเหรียญ ETH มายาวนานจนมูลค่าในตัวเองเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีอำนาจในการซื้อขายที่สูง ตัวอย่างเช่นราคาเหรียญ ETH ในสมัยก่อนราคาเพียงหลัก 10-100 ดอลลาร์ต่อ ETH แต่ปัจจุบันราคาขึ้นมาเกินกว่า 1,000 ดอลลาร์ คนเหล่านี้ยังคงเลือกใช้งาน dApps ในเชนของ Ethereum
ทว่านักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังทรัพย์ยังไม่มากต้องมีปัญหากับการใช้งาน dApps เชน Ethereum เนื่องจากต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่า Gas ที่แพงมากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาใน Exchange ปรับตัวสูงขึ้นหรือเกิดการทำธุรกรรมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องหันไปใช้งานเชนใหม่ๆที่ชูจุดขายเรื่องค่าธรรมเนียมต่ำแทน
Blockchain Layer2 จึงเกิดขึ้นมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ Blockchain Layer1 สามารถขยาย Scale การให้บริการเพื่อรองรับการทำธุรกรรมต่างๆได้ดีขึ้น เสมือนกับการช่วยขยายท่อหรือทางด่วนของข้อมูลให้กว้างขึ้นนั่นเอง
Blockchain Layer2 ที่โดดเด่น
Polygon Network เป็น Protocol ที่ออกมาสนับสนุนเชนของ Ethereum ให้มี Scale การทำงานที่กว้างขึ้น ถือเป็น Blockchain Layer2 ที่อยู่ในอันดับต้นๆของผู้ใช้งาน โดยมีเหรียญ Matic ไว้สำหรับจ่ายค่าบริการ
บทความที่เกี่ยวข้อง : NFT กับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ
Immutable X คือ Blockchain Layer2 ของ Ethereum ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยน NFT โดยเฉพาะ ซึ่งมีการทำงานกับเครือข่ายใหญ่ที่สุดอย่าง OpenSea รวมถึง GameFi ขนาดใหญ่บางเกมส์
Bridge ตัวช่วยลดค่าธรรมเนียมข้ามเชน
นอกจาก Blockchain Layer2 ที่มาช่วยเรื่องของการลดค่าธรรมเนียมแล้ว ยังมีอีกเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกันก็คือ Bridge ก็คือตัวกลางที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างบล้อกเชนที่แตกต่างกันนั่นเอง จุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งานที่อาจจะมีเหรียญที่ถืออยู่แต่ต่างเชนมีความสะดวกที่จะเข้ามาใช้บริการ dApss ต่างๆนั่นเอง
กล่าวได้ว่า Blockchain Layer2 คือตัวช่วยที่ทำให้โลกของ dApps ต่างๆสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในวงกว้างได้มากขึ้นโดยไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่มีความมั่งคั่งสูงที่สามารถจ่ายค่า Gas แพงๆได้เท่านั้น แต่ผู้ที่มีความมั่งคั่งจากคริปโตที่ไม่สูงมากก็สามารถเข้าถึงได้
ฟังคลิปวิเคราะห์ตลาดคริปโตปี 2022 ได้ที่นี้