Metaverse คือ โอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัลภายในระยะเวลา 3-5 ปีข้างหน้าจากนี้ โดยบทวิเคราะห์จาก Grayscale ได้คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของ Metaverse จะแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเข้าไปแทนที่อินเทอร์เนตในยุค 2.0 ที่มีมูลค่าตลาด 15 ล้านล้านดอลลาร์ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไม Web3.0 จะเข้ามาปฎิวัติโลกอินเทอร์เนตและการลงทุน
ทำความเข้าใจ Web 3.0
อินเทอร์เนตในยุคแรกหรือ Web 1.0 และ Web 2.0 ผู้ใช้งานมีข้อจำกัดในการแสดงออกอย่างเช่น Web 1.0 ที่สามารถอ่านได้อย่างเดียวหรือสื่อสารทางเดียว ส่วน Web 2.0 เริ่มที่จะสื่อสารได้สองทาง แต่ไม่สามารถที่จะเป็นเจ้าของผลงานตัวเองได้
โครงสร้างพื้นฐานของ Web 1.0 ก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ส่วนยุคต่อมาคือโทรศัพท์มือถือและ Cloud ส่วน Web 3.0 จะใช้บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีหลักโดยชูความเป็น Decentralized โดยเครือข่ายผู้ใช้งานจะเป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าบริษัทและแพลตฟอร์ม โดย Metaverse คือ ส่วนหนึ่งของ Web 3.0
มนุษย์ใช้ชีวิตและใช้เงินบนโลกออนไลน์มากขึ้น
มีตัวเลขที่น่าสนใจคือปัจจุบันมนุษย์ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ถึง 1 ใน 3 ของชีวิตหรือ 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์ โซเชียลมีเดียหรือการเสพสื่อออนไลน์ พอชีวิตของคนเราอยู่บนออนไลน์ก็มีโอกาสที่จะใช้เงินบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้ชีวิตบนโซเชียลมีเดียและวีดีโอเกมส์ ขณะที่กลุ่มผู่สูงอายุยังคงอยู่กับสื่อเก่าอย่างเช่นทีวี
คาดการณ์ว่าเม็ดเงินรายได้จากโลกออนไลน์จะเติบโตจาก 180,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 มาเป็น 400,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 ตัวเร่งสำคัญคือการปรับเปลี่ยนโมเดลรายได้ของนักพัฒนาเกมส์ที่ปรับจากการที่นักเล่นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเกมส์มาเล่นมาเป็นการเล่นเกมส์ฟรีในตอนแรกและมาใช้เงินซื้อไอเท็มในเกมส์แทน
นอกจากนี้แพลตฟอร์มอินเทอร์เนตในยุค Web 2.0 กำลังปรับตัวเองเข้าสู่ Web 3.0 รวมถึง Metaverse ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการให้บริการรูปแบบปิดซึ่งเจ้าของแพลตฟอร์มควบคุมทุกอย่างมาเป็นระบบเปิดซึ่งผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆในโลก Metaverse ได้
ปัญหาของ Web 2.0 คือผู้เล่นที่สร้างสิ่งต่างๆไว้ในเกมส์แต่ไม่มีโอกาสจะเป็นเจ้าของสิ่งนั้นด้วยตัวเองหรือแม้แต่การซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเท็ม จึงไม่สามารถที่จะถ่ายโอนความมั่งคั่งจากโลกเสมือนจริงไปยังโลกภายนอกได้
Metaverse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Web 3.0 เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ผ่าน NFT หรือ Non-Fungible Tokens ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจใหม่บนโลกของอินเทอร์เนตที่สามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกมส์ได้ผ่านโมเดล Play-To-Earn
ไม่เพียงแต่รายได้ที่เกิดในเกมส์ แต่ Metaverse ทำให้เกิดโอกาสที่จะขยายรูปแบบเศรษฐกิจไปได้มากกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการโฆษณา ,Social Commerce,Hadware รวมถึงรายได้ของ Software Developer ที่เพิ่มขึ้น เห็นได้ว่า Metaverse ทำให้เกิดโอกาสทางธุริจใหม่
มูลค่าตลาดของ Metaverse ยังเล็กมากเมื่อเทียบกับ Web 2.0
ปัจจุบันมูลค่าตลาดของ Metaverse ยังอยู่เพียงแค่ 27,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังเล็กมากเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของ Meta หรือ Facebook ซึ่งอยู่ที่ 900,000 ล้านดอลลาร์ และตลาดเกมส์ซึ่งมีมูลค่า 14.8 ล้านล้านดอลลาร์ เท่ากับว่า Metaverse ยังมีโอกาสเติบโตอีกหลายเท่า ถ้าหากผู้เล่นในกลุ่ม Web 2.0 ย้ายมายัง Web 3.0
ขณะเดียวกันผู้เล่นใน Metaverse ปัจจุบันอยู่ที่ 50,000 ราย โดยวัดจากจำนวน Wallet ที่เปิด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 10 เท่านับตั้งแต่ปี 2020 ถือได้ว่า Metaverse ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอย่างมากและมีโอกาสจะก้าวขึ้นมาเป็นกระแสหลักได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า
ไตรมาสสามของปี 2021 ได้เกิดการระดมทุนในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Web 3.0 คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,200 ล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นส่วนของ NFT 1,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนของ Blockchain Games มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Meta ใช้งบลงทุนในการพัฒนา Metaverse ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์และอาจจะมีรายใหญ่อื่นๆลงทุนตาม
สรุปแล้ว Metaverse คือ เทคโนโลยีที่จะสามารถสร้างรายได้ต่อปีแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ไม่ยากหากเทียบกับรายได้ของบริษัทเทคโนโลยียุค 2.0 ที่มีรายได้รวม 15 ล้านล้านดอลลาร์ ในตอนนี้
ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของ Grayscale Research
** ประชาสัมพันธ์** คอร์ส “สร้างความมั่งคั่ง ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล” โดย อ.แก็ป นเรศ เหล่าพรรณราย เจ้าของแฟนเพจ Editor Gap Investment Talk และผู้เขียนหนังสือ Best Seller “มือใหม่เริ่มต้นลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” และ “DeFi และ NFT ความมั่งคั่งยุคดิจิทัล”
คลิกเลย https://www.skilllane.com/courses/Digital-Asset-Investment