ราคาบิทคอยน์ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งแตะระดับ 2 ล้านบาทต่อหนึ่งบิทคอยน์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้วแต่จากสถิติเก่าในรอบ 11 ปีที่ผ่านมาได้ระบุว่ามีโอกาสที่ ราคาบิทคอยน์ จะปรับตัวขึ้นได้อีก เราไปดูสถิติดังกล่าวกัน
ทั้งนี้บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนและสถิติดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคตแต่อย่างไร
1 หลังการ Halving ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากภาพจะเห็นว่าราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นหลายเท่าและจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ทุกครั้งที่เกิดการทำ Halving สามครั้งที่ผ่านมา โดยในปี 2021 หากสมมุติฐานยังเป็นไปตามการเกิด Halving สามครั้งแรกที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าบิทคอยน์ยังมีโอกาสที่จะไปต่อได้อีกมาก
อย่างไรก็ตามหลังการ Halving และราคาขึ้นไปจุดสูงสุด บิทคอยน์จะเปลี่ยนทิศทางเป็นขาลงอย่างยาวนานด้วยเช่นกัน ผู้ลงทุนจึงต้องให้ความระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างมาก
2 หากบิทคอยน์สามารถทำ ATH ราคาจะยังไปได้อีกไกล
ข้อมูลได้ระบุว่าทุกครั้งที่บิทคอยน์สร้างจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) ราคาจะยังเดินหน้าไปได้ต่อทุกครั้ง โดยหลังการเกิด ATH ครั้งแรกเหนือราคา 29 ดอลลาร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นต่ออีก 39 เท่า
การสร้างจุดสูงสุดใหม่ครั้งที่สองในเดือนเมษายนปี 2017 ราคาบิทคอยน์พุ่งทะลุระดับ 1,135 ดอลลาร์ ราคาบิทคอยน์ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่ออีก 17% ขณะที่ล่าสุดการสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 20,000 ดอลลาร์ ในปี 2020 จนถึงตอนนี้ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นมาเพียงแค่ 3 เท่า ซึ่งถือว่าน้อยกว่าในอดีตมาก
3 หลังราคาลงมาทำ New Low ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นเกินกว่าร้อยเท่าทุกครั้ง
ทุกครั้งที่บิทคอยน์ลงมาทำจุดต่ำสุดในภาวะขาลงจะมีการฟื้นตัวทุกครั้งและจะปรับตัวขึ้นหลักร้อยเท่า โดยในปี 2011 ราคาบิทคอยน์ฟื้นตัวจากราคาต่ำสุด 2.11 ดอลลาร์ แต่จากนั้นใช้เวลา 747 วันราคาบิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 539 เท่า
ปี 2015 ราคาบิทคอยน์ลงมาทำจุดต่ำสุด 176 ดอลลาร์ แต่จากนั้น 1,067 วัน ราคาปรับตัวขึ้นกว่า 112 เท่า ขณะที่รอบล่าสุดราคาบิทคอยน์ทำ New Low ที่ 3,185 ดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม 2018 จนมาถึงเดือนเมษายน 2021 ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 18 เท่า
4 Supply ของบิทคอยน์ใน Exchange ลดลงอย่างต่อเนื่องสวนทางราคา
ขณะที่ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่กลับกลายเป็น Supply ของบิทคอยน์ที่อยู่ในตลาดรองหรือ Excahnge กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง บ่งบอกว่าได้มีการย้ายบิทคอยน์มาเก็บไว้ใน Cold Wallet มากขึ้น ตรงกับทิศทางที่เกิดขึ้นคือได้มีนักลงทุนสถาบันซึ่งมีแนวทางลงทุนระยะยาวเข้ามาเก็บบิทคอยน์อย่างต่อเนื่อง
การที่ Supply ซึ่งสามารถซื้อขายได้ในตลาดลดลงแต่เกิด Demand มากขึ้นจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาบิทคอยน์สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามหลักทางเศรษฐศาสตร์ และการที่ Supply จำกัด จะทำให้การดันราคาทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
5 กองทุนหันมาซื้อบิทคอยน์แต่เทขายทองคำ
ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่านักลงทุนสถาบันได้เข้ามาลงทุนในบิทคอยน์ผ่านกองทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 ขณะที่กองทุน ETFs ทองคำเริ่มถูกเทขายมาตั้งแต่ปลายปี 2020 ที่ผ่านมา บ่งบอกว่าบิตคอยน์กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นแทนที่ทองคำ
อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าข้อมูลที่นำเสนอเป็นข้อมูลในอดีตไม่ได้การันตีว่าแนวโน้มในอนาคตจะเป็นไปตามสิ่งที่เคยเกิดในอดีต 100% และไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงการลงทุน
บทความที่เกี่ยวข้อง : สถาบันการเงินระดับโลกแห่ยอมรับ “บิตคอยน์”