บิตคอยน์ คือ สกุลเงินดิจิทัลซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2008 แต่กว่าจะได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลกอย่างชัดเจนก็กินเวลานานนับสิบปี โดยตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่สถาบันการเงินทั่วโลกต่างออกมาเปิดเผยว่าได้ให้การยอมรับ บิตคอยน์ และเปิดให้ลูกค้าสามารถลงทุนหรือซื้อขายได้
Goldman Sachs ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกออกมายอมรับว่า บิตคอยน์ คือ อนาคตของโลกและเริ่มแนะนำให้นักลงทุนกลุ่ม Private Welath ของธนาคารเข้าลงทุนในไตรมาสที่ 2 ในปี 2021
ขณะที่ Morgan Stanley ธนาคารระดับโลก ได้เขียนรายงานในเอกสารที่จัดส่งให้กับลูกค้าของธนาคารแล้วว่าบิตคอยน์กับ cryptocurrency ตัวอื่นๆ กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น asset class ที่สามารถเข้าลงทุนได้
ทางด้านธนาคารยักษ์ใหญ่จากเยอรมันนี Deutsche Bank ได้ออกมากล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญของบิตคอยน์คือการเป็นสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัด” และเริ่มที่จะให้บริการรับฝากบิตคอยน์หรือ Custodian ให้กับลูกค้าระดับสถาบัน
ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯอย่าง BNY Mellon ได้หันมาเปิดให้บริการ Custodian ในการเก็บรักษาบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่นเดียวกับ FT State Street ซึ่งเป็นธนาคารที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ประกาศข้อตกลงกับ Puremarkets ซึ่งจะพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับธนาคาร
ขณะที่ธนาคารยักษ์ใหญ่จากฝั่งเอเชียอย่าง DBS จากประเทศสิงคโปร์ได้เริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมาและยังให้การสนับสนุนตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในการระดมทุนและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกเหนือจากธนาคารแล้ว บริษัทรับชำระเงินรายใหญ่อย่าง Visa เริ่มลงมาชิมลางในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน โดยประกาศว่าได้ยอมรับสกุลเงิน Stablecoins อย่าง USDC ภายใต้เชนของ Ethereum โดยจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัล 35 แพลตฟอร์มอย่างเช่น Coinbase, Crypto.com, BlockFi และ Bitpanda ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคน
ขณะที่ PayPal ซึ่งออกตัวเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินรายแรกที่เปิดให้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลกับบุคคลทั่วไป ล่าสุดยังได้เปิดบริการนี้กับกลุ่มร้านค้าเพื่อให้สามารถรับสกุลเงินดิจิทัลอย่างเช่น บิตคอยน์ Ethereum,Bitcoin Cash และ Litecoin จากลูกค้าได้ ซึ่งพร้อมจะให้บริการกับลูกค้า 29 ล้านรายทั่วโลก
ทางด้านสำนักข่าวระดับโลกอย่าง Bloomberg ซึ่งเริ่มออกบทวิเคราะห์การลงทุนในบิตคอยน์มาตั้งแต่ปีที่แล้วยังได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับบิตคอยน์ว่ากำลังจะเป็นทุนสำรองของสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะที่สำนักข่าวระดับโลก CNN ทำการใส่ข้อมูลบิตคอยน์ในฐานะ World Currencies สากลใน website ของพวกเขาแล้ว เทียบเท่ากับสกุลเงินต่างๆทั้งโลกร่วมกับ USD, Yuan, Yen, Pound และ Euro
หลังจากที่องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง TESLA ไล่มาจนถึงนักลงทุนสถาบันและในที่สุดก็คือสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมที่ยอมรับในตัวบิตคอยน์ ประเด็นที่ต้องจับตาต่อไปคือถึงเวลาแล้วหรือยังที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศจะยอมรับบิตคอยน์เป็นหนึ่งในทุนสำรองระหว่างประเทศ
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : จุดเปลี่ยนโลกการเงิน..เมื่อทั่วโลกเปิดรับชำระเงินด้วยคริปโต