NFT คือ นวัตรกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการศิลปะ ของสะสม กีฬา ไปจนถึง E-Sport ด้วยคุณสมบัติของการที่ไม่สามารถเลียนแบบทำซ้ำได้ สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ทั่วโลก จึงเป็นเทคโนโลยีที่จะเติบโตไปพร้อมกับกระแสของโลกคอนเทนท์เสมือนจริง (Virtual Content) เรามาทำความรู้จัก NFT คือ อะไรผ่านบทความนี้กัน
แต่ละโทเคนมีความเป็นเจ้าของอยู่ในตัวเอง
NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Tokens หมายความถึงแต่ละโทเคนที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นมีความเป็นเฉพาะตัวของตัวเองไม่สามารถที่จะทดแทนกันได้ หรือกล่าวง่ายๆก็คือมี Serial Number เป็นของตัวเอง โทเคนหมายเลข 001 จะมีไม่เหมือนกับการถือโทเคนหมายเลข 002
เปรียบเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆที่อยู่บนบล็อกเชนอย่างเช่นบิทคอยน์แต่ละหน่วยมีความเหมือนกัน ไม่ว่าใครที่ถือครองก็จะมีมูลค่าเท่ากันสามารถส่งต่อหรือโอนให้กันได้
แต่ NFT ในแต่ละโทเคนจะมีความเป็นเฉพาะตัวของตัวเองหรืออาจจะมีมูลค่าที่แตกต่างกันซึ่งอาจจะมีโทเคนดังกล่าวเพียงชิ้นเดียวในโลกก็เป็นได้ ทำให้เกิดเป็นมูลค่าในตัวเอง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 5 สิ่งที่ DeFi แตกต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิม
ตัวอย่างเช่น Jack Dosey ซีอีโอของทวิตเตอร์ประกาศประมูลทวีตแรกของเขา “Just set up my twittr” ในรูปแบบ NFT และสามารถปิดการประมูลที่ราคา 2.9 ล้านดอลลาร์
NFT ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ethereum ภายใต้รหัส ERC-721 และล่าสุดได้ถูกพัฒนาโดยใช้ ERC-1155 โดยแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ที่ได้รับความนิยมมากอย่างเช่น Nifty Gateway, Rarible, OpenSea, MakersPlace และ Known Origin
NFT มีความสำคัญอย่างไร
NFT ถูกนำเข้ามาแก้ไขปัญหาการลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ และหลอกลวง โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ที่มักจะเกิดปัญหาของการปลอมแปลงสินค้าเนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้อย่างชัดเจนรวมถึงบนโลกออนไลน์สามารถดัดแปลง เลียนแบบ ทำซ้ำกันได้โดยง่าย
NFT จึงสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้กับสินค้าหรือสินทรัพย์ที่มีความเฉพาะตัว เช่น พระเครื่อง ของสะสม ของใช้ส่วนตัว รวมถึงคอนเทนท์ในรูปแบบดิจิทัลเช่นภาพวาดในรูปแบบดิจิทัลที่เริ่มได้รับความนิยมในตอนนี้
มูลค่าตลาด NFT เติบโตไปถึงไหนแล้ว
NFT คือหนึ่งในเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วโดยเวบไซต์ Statista เปิดเผยว่ามูลค่าตลาด NFT ในปี 2018 ยังอยู่ที่ระดับ 40.96 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2020 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 338 ล้านดอลลาร์ หรือเติบโตเกือบเก้าเท่า
ขณะที่เวบไซต์ Coingecko รายงานว่ามูลค่าตลาดของ NFT Token ในปัจจุบันอยู่ที่ 7,425 ล้านดอลลาร์ โดยโทเคนที่มีมาร์เกตแคปสูงสุดคือ Enjin Coin หรือ ENJ ตามด้วยเหรียญดังอย่าง Decentraland หรือ MANA
สินทรัพย์ประเภทใดบ้างที่ถูกนำไปสร้างบน NFT
โปรเจกต์ NFT ที่โด่งดังอย่างเช่นเกมส์ Cryptokitties ที่แมวแต่ละตัวในเกมส์จะมีรูปร่างหน้าตาที่ไม่ซ้ำกันสามารถที่จะซื้อขายกันได้ หรือว่าเกมส์ Decentraland เกมส์จำลองที่ผู้เล่นสามารถซื้อ-ขาย ที่ดิน, รวมไปถึงเครื่องแต่งกายตัวละครในเกม โดยใช้เหรียญสกุลเงินดิจิทัลที่ชื่อ MANA ได้
วงการกีฬาก็เริ่มที่จะมีการนำ NFT มาใช้แล้วเช่นกันอย่างเช่นแพลตฟอร์ม Socios ที่มีการสร้าง Fan Token ทีมฟุตบอลชื่อดังอย่าง บาร์เซโลน่า ยูเวนตุส เอซีมิลาน แมนเชสเตอร์ซิตี้ แอตเลติโกมาดริด โดยผู้ที่ถือโทเคนของทีมฟุตบอลนั้นๆจะได้รับสิทธิพิเศษจากสโมสรนั้นๆเช่น โหวตเพลงเชียร์ประจำสโมสร โดย Socios มีโทเคนของตัวเองในชื่อ CHZ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังรวมถึงพวกงานศิลปะ การ์ดเกมส์ ของสะสม ทรัพย์สินทางปัญญา ชื่อเสียงของผู้ สิ่งเหล่านี้สามารถนำขึ้นมาอยู่บน NFT ได้ทั้งหมด เรียกได้ว่าอนาคตจะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้กระแสของสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตได้อย่างมากทีเดียว
กระแส NFT จะเติบโตได้อีกหรือไม่?
ในวงการคริปโตมีการพูดถึงกันว่าปี 2020 เป็นปีแจ้งเกิดของ DeFi ส่วนปี 2021 น่าจะเป็นปีที่กระแสของ NFT จะถูกจุดติดขึ้นมา และน่าจะทำให้เกิดการเก็งกำไรในเหรียญ NFT เกิดขึ้น ซึ่งนักเทรดจะต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ราคาเหรียญนั้นๆจะพุ่งขึ้นว่าเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรหรือมาจากพื้นฐานและความนิยมอย่างแท้จริง
ต้องจับตากันต่อไปว่า NFT คือ นวัตรกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการศิลปะ ของสะสม กีฬา E-Sport และจะมาเปลี่ยนแปลงโลกของสินทรัพย์เสมือนจริง (Virtual Content) ได้มากน้อยเพียงใดและจะมีความยั่งยืนแค่ไหนหรือจะเป็นเพียงกระแสปั่นฟองสบู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : บล็อกเชน กับการต่อยอด Business Ecosystem วงการกีฬา