Ark Invest บริษัทด้านจัดการลงทุนระดับโลกที่กำลังถูกพูดถึงในการเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในนวัตรกรรมใหม่ทั่วโลกได้ออกบทวิจัยเกี่ยวกับราคา Bitcoin โดยระบุว่านักลงทุนสถาบันและบริษัทจดทะเบียนจะเป็น Key Player ในการดันราคา Bitcoin พุ่งขึ้นได้อีกสูงสุดถึง 500,000 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เอาตัวรอดอย่างไรในภาวะตลาดกระทิงของคริปโต
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ผู้ที่ถือ Bitcoin สาย Hodl เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดย 60% ของผู้ถือ Bitcoin ทั้งหมดไม่ทำการเคลื่อนไหวใดๆนานกว่า 1 ปี โดยเฉพาะผู้ที่ถือนานกว่า 5 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
มูลค่าตลาดที่แท้จริง (Realize Capitalization) ได้ปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ เป็นการบ่งบอกว่านักลงทุนที่ถือ Bitcoin มาก่อนหน้านี้ได้ทำการขายทำกำไรไปและนักลงทุนหน้าใหม่ได้เข้ามาซื้อโดยสร้างฐานของราคาใหม่ที่สูงขึ้น
การวิจัยของ Ark Invest ระบุว่าหากบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500 จัดสรรเงินลงทุน 1% ของทุนสำรองบริษัทเข้ามาซื้อ Bitcoin จะช่วยดันให้ราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 40,000 ดอลลาร์และถ้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ราคาจะเพิ่มได้ถึงระดับ 400,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ยังมองว่า Bitcoin จะได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนมากขึ้นโดยเห็นได้จากการยอมรับโดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง Microstrategy,Square และ Paypal รวมถึงนักลงทุนสถาบันอย่าง Paul Tudor Jones เจ้าของเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของโลกที่เพิ่มสัดส่วน Bitcoin ลงในพอร์ตลงทุน 1% รวมถึงบริษัทประกันรายใหญ่ MassMutual ที่ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ใน Bitcoin
เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอย่าง JPMorgan,Fidellity และ DBS Bank ที่ให้การยอมรับใน Bitcoin แล้วแม้จะยังไม่ได้ลงทุนโดยตรงแต่ก็เปิดให้ทำธุรกรรมซื้อขายได้ สิ่งหนึ่งที่สะท้อนได้อย่างดีคือจำนวนการเปิดสัญญา Bitcoin Futures ในตลาด CME ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของการเป็นสินทรัพย์การลงทุนคือ Bitcoin มีค่าความสัมพันธ์ (Correlation) ที่แยกออกจากสินทรัพย์อื่นๆอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นดัชนีตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน พูดง่ายๆคือแม้ตลาดหุ้นจะลงแต่ Bitcoin จะไม่ปรับตัวลงตาม ทำให้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุน
Ark ยังมองด้วยว่าวอลลุ่มซื้อขายรายวันของ Bitcoin จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการซื้อขายรายวันในตลาดหุ้นสหรัฐฯหรือคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และภายในหกปีจะมีมูลค่าแตะ 10 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเทียบเท่ากับมูลค่าซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (FX) ทั่วโลก
ปิดท้ายที่การจำลองโมเดลการลงทุนของ Ark ระบุว่าหากนักลงทุนสถาบันเช่นกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันและกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติหันมาถือ Bitcoin ในสัดส่วน 2.5% ของพอร์ตลงทุนรวมจะดันราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นได้อีก 200,000 ดอลลาร์ และถ้าเพิ่มเป็นสัดส่วน 6.5% จะดันราคาขึ้นไปได้อีก 500,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้บทวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์โดยคำนวนจากข้อมูลและสถิติที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้บ่งบอกว่าราคา Bitcoin จะไปถึงจุดดังกล่าวได้แต่อย่างไร
บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟองสบู่บิตคอยน์ยังไม่แตก และจะไม่ลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
อ่านบทวิจัยฉบับเต็มได้ที่นี้
