Next Normal นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในโลกของธุรกิจไม่ว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดหรือไม่ แต่บางอุตสาหกรรมก็จะเดินหน้าเติบโตได้ในยุคนี้และอนาคตอยู่แล้ว เราไปดูกันว่ามีอุตสาหกรรมใดบ้างที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างดีในยุคดิจิทัล
E-Commerce
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเป็นตัวเร่งให้เทรนด์ของการซื้อของผ่านทางออนไลน์เติบโตได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยดัชนี ProShares Online Retail Index ซึ่งครอบคลุมหุ้นกลุ่มอีคอมเมิร์ซอย่างเช่น Amazon,eBay,Alibaba,JD.com เติบโตขึ้น115% ในช่วงปีที่ผ่านมา และยังเป็นที่คาดหมายว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปหลังจากนี้โดยจะหันมาซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น
Fintech
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่จะเติบโตไปพร้อมกับอีคอมเมิร์ซก็คือฟินเทคซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับชำระเงินทางออนไลน์ แม้ว่า ANT Group จะไม่สามารถไอพีโอได้แต่ยังมีหุ้นกลุ่มดังกล่าวให้เลือกลงทุนได้ไม่ว่าจะเป็น Paypal,Square ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ตามกระแสของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากฟินเทคหลายรายเริ่มที่จะหันมาให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น
Digital Healthcare
หุ้นในกลุ่มดังกล่าวจะครอบคลุมถึง Tele Medical หรือการพบแพทย์ทางไกลด้วยระบบออนไลน์ ,Biotechnology หรือการผลิตยาและวัคซีนรวมถึงเวชภัณฑ์ต่างๆ และที่กำลังมาแรงก็คือ Gene therapy หรือ Gene Editing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยในการรักษาโรคร้ายแรงอย่างเช่นโรคมะเร็ง
ส่วนหุ้นดาวเด่นคงจะหนีไม่พ้นกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิดอย่างเช่น Moderna รวมถึงผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่หันมาพัฒนาสินค้าที่มีนวัตรกรรมมากขึ้นอย่าง Pfizer,Johnson and Johnson
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว eToro แพลตฟอร์มเทรดสินค้าต่างประเทศที่เหมาะสมกับมือใหม่
Semiconductor
หรือจะเรียกว่าผู้ผลิตอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนอีเล็กทรอนิกส์ซึ่งเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมอื่นเช่น E-Sport รวมไปถึงสินค้าทางด้านไอทีที่มีนวัตรกรรมสูงขึ้น ตัวอย่างของหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เช่น NVDIA,AMD ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 100% ในปีที่ผ่านมาและยังทำ All Time High อย่างต่อเนื่อง
เกมส์และ E-Sport
ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา ดัชนี Solactive Video Games & Esports Index ซึ่งครอบคลุมผู้พัฒนาเกมส์ในรูปแบบซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์เติบโตขึ้นกว่า 91% โดยหุ้นที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้เช่น Nintendo ผู้ผลิตเกมส์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น Electric Arts ผู้ผลิตเกมส์รายใหญ่ของโลกจากสหรัฐฯ รวมถึง SEA ซึ่งเป็นเจ้าของ Garena ยักษ์ใหญ่ในวงการ E-Sport เป็นต้น
EV Car
ปฎิเสธไม่ได้ว่านี้คืออุตสาหกรรมที่ร้อนแรงที่สุดของยุคนี้ เห็นได้จากหุ้นของ TESLA และ NIO ซึ่งปรับตัวขึ้นกว่า 700% และ 1,600% ในปีที่แล้ว และอนาคตบริษัทเทคโนโลยีอื่นอย่าง Apple,Google,Baidu ก็จะหันมารุกผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกันรวมถึงบริษัทรถยนต์แบบดั้งเดิมก็จะหันมาเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังต้องรวมถึงบริษัทผู้ให้บริการใน Ecosystem ของ EV Car อย่างเช่น ผู้ให้บริการสถานีชาร์ทและผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
AI,Robotics และ Internet of Thing
เทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ก็คือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI รวมถึง IOT (Internet Of Thing) รวมไปถึงผู้ผลิตหุ่นยนต์ (Robotics) ซึ่งประเทศจีนถือได้ว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมดังกล่าวและมีหุ้นที่ลิสต์อยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกงจำนวนมาก ตัวอย่างหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เช่น Baidu,Lenovo,Tencent Music,LG Electrics
กัญชาเพื่อการแพทย์และสันทนาการ
ถือเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ใหม่ของโลกหลังจากที่หลายๆประเทศเริ่มที่จะผ่อนคลายกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาจากเดิมที่ถูกจัดให้เป็นยาเสพติดเปลี่ยนมาเป็นการปลูกและผลิตเพื่อการแพทย์และบางประเทศอนุญาตให้ใช้งานในเชิงสันทนาการได้แล้ว ทำให้หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตกัญชาเริ่มได้รับการจับตามองมากขึ้น โดยหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ Aphria Inc ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นแคนาดาและ NASDAQ
ทั้ง 8 อุตสาหกรรมนี้ถือได้ว่ามีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตภายใต้ Next Normal ไม่ว่าไวรัสโควิดจะหมดไปจากโลกนี้หรือไม่ เพราะแนวโน้มหลักของโลกได้เปลี่ยนไปโดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวหนุนหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามธุรกิจที่มีการเติบโตสูงย่อมมีความผันผวนและความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน นักลงทุนต้องคำนึงถึงปัจจัยดังกล่าวนี้ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตลาดหุ้นฮ่องกง แหล่งลงทุนหุ้นเทคโนโลยีแห่งยุค Next Normal