ZIL หรือ Ziliqa กลายเป็นเหรียญที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ระดับเกินกว่า 1,000% แซงหน้า Chainlink ที่ตามมาอันดับสองที่ 500% ชนิดที่เรียกว่าเหนือความคาดหมาย เหรียญนี้จะมีคุณสมบัติอย่างไร เราไปทำความรู้จักกัน
โปรเจกต์ Ziliqa เกิดขึ้นในปี 2017 จากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัย University of Singapore โดยได้เสนอขาย ICO มูลค่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมกราคม 2018
จุดประสงค์หลักเพื่อนำมาใช้งานทางด้าน Smart Contract โดยเริ่มแรกนั้นทำงานอยู่ภายใต้เชน ERC20 ของ Ethereum แต่ล่าสุดได้เปิดตัว Mainnet ของตัวเอง ใน Version 7.0 โดยมีชื่อเชนของตัวเองว่า Shards
จุดแข็งของ Zilliqa เป็นเรื่องของความเร็วในการทำธุรกรรมซึ่งมีความรวดเร็วมากกว่า Ethereum (โดยเฉพาะในช่วงที่กระแส DeFi มาแรงทรานแซคชั่นการโอนทำได้ช้ามาก) โดยสามารถทำธุรกรรมได้ถึง 2,828 Transaction ต่อวินาที ขณะที่ Ethereum สามารถทำได้แค่ 15 Transaction ต่อวินาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ Zilliqa ยังมีพันธมิตรเป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสิงคโปร์หรือ XSGD อีกต่างหาก เนื่องจากมีฐานที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์นั่นเอง
แม้ว่า Zilliqa จะทำงานในรูปแบบ Proof Of Work พูดง่ายๆคือยังคงต้องใช้วิธีการขุดเพื่อให้ได้เหรียญมาเป็นเจ้าของ แม้ว่าอาจจะเป็นแนวทางที่ดูเชยไปแล้วเพราะเหรียญใหม่ๆที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็น Proof Of Stake กันหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามวิธีการขุดของ Zilliqa นั้นไม่จำเป็นต้องทำการ Prove ทุกบล็อก ทำให้ลดระยะเวลารวมถึงพลังงานที่ต้องใช้ในการขุดไปได้อย่างมาก นอกจากนี้เวลาที่ขุดยังจะได้รับ Reward ทั้งเหรียญ ZIL และ ETH ไปพร้อมๆกันอีกด้วย
ทั้งนี้ Zilliqa เปิดทางให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Smart Contract ผ่านเชนได้อีกด้วยซึ่งด้วยการที่เป็นเหรียญเกิดใหม่ทำให้ลดปัญหาในทางด้าน Scalability ได้ได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเหรียญรุ่นเก่า
ตัวเหรียญมีจำนวนซัพพลายทั้งสิ้น 12,000 ล้านZIL โดยจะมีจำนวนซัพพลายสูงสุดอยู่ที่ 21,000 ล้านZIL ถือว่ามีการจัดโครงสร้างซัพพลายที่ดีในการจำกัดจำนวนไม่ให้เกิดขึ้นใหม่ได้นอกเหนือจากที่กำหนดไว้แต่แรก
ปัจจุบันสามารถเทรดเหรียญ Zilliqa ได้ทาง Excahnge ชั้นนำอย่าง Binance ,OKEx ส่วนเวบไทยนั้นสามารถเทรดได้ผ่านทาง Bitkub ซึ่งจะเทรดคู่กับเงินบาท
ต้องถือว่าโครงสร้างและฟีเจอร์ของเหรียญถูกออกแบบมาอย่างดีแต่จะเข้ามาทดแทน Ethereum และเหรียญสาย Smart Contract ได้หรือไม่ยังต้องติดตามกันต่อไปรวมถึงคอนเซบท์ Proof Of Work ยังใช้ได้กับยุคใหม่นี้หรือไม่ยังคงเป็นคำถามสำคัญ แต่ที่แน่ๆผู้ถือเหรียญในปีนี้น่าจะแฮปปี้กับราคาที่น่าจะคว้าแชมป์ผลตอบแทนประจำปีนี้ได้ไม่ยาก
เวบไซต์อย่างเป็นทางการของ Zilliqa คลิ๊กเข้าไปอ่านได้ที่นี้
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : มองภาพใหญ่ Bitcoin ในปี 2021 มีโอกาสเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง 3 ปี
