ดัชนี Dollar Index อ่อนค่าลงเมื่อคืนที่ผ่านมาจากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้สินทรัพย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก
ราคาทองคำฟิวเจอร์สปรับตัวพุ่งแตะระดับ 1,820 ดอลลาร์ เป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 นักลงทุนมองว่าเป็น Safe Haven ที่น่าสนใจในการลงทุน
ขณะที่สภาทองคำโลกเปิดเผยว่า กองทุน ETF ทองได้เพิ่มการถือครองทองจำนวน 734 ตันในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ราคาทองคำที่สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ซึ่งถือว่าเป็นแนวต้านสำคัญในรอบ 8 ปี บ่งบอกถึงความต้องการทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยที่ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในระยะยาว ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นแทน
จากกราฟเทคนิคบ่งบอกว่าแนวต้านต่อไปของทองคำจะอยู่ที่ 1,861 ดอลลาร์ตามแนว Fibonacci หากผ่านไปได้การที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 1,921 ดอลลาร์ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนระยะสั้นแนวรับจะอยู่ที่ 1,764 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านที่สามารถ Breakout ในกรอบไซด์เวย์ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนขึ้นมาได้”
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมาหลังวิกฤติ Black Thursday ราคาทองคำมีการความผันผวนในระดับสูงและมักถูกเทขายพร้อมกับตลาดหุ้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองว่าเงินดอลลาร์ยังมีความจำเป็นในการเข้ามาพยุงความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน เช่นการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อสินทรัพย์และหนี้สินต่างๆ รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ระยะสั้นเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไม่ได้มากนัก
แต่สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือหากการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและตลาดการเงินจบลง เงินดอลลาร์จะมีทิศทางอย่างไรต่อไป เนื่องจากซัพพลายที่มีอยู่จำนวนมหาศาลจากการอัดฉีดสภาพคล่องแบบไม่จำกัดวงเงิน จนทำให้งบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯพุ่งแตะระดับ 7 ล้านล้านดอลลาร์ อาจต้องใช้เวลานับสิบปีในการดูดสภาพคล่องเหล่านี้กลับคืน
เมื่อซัพพลายดอลลาร์มีมากเกินความต้องการ ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนจะเริ่มมองหาสิ่งที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นในอนาคตนั่นคือทองคำหรืออาจรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ นี่คือปัจจัยหลักที่จะผลักดันราคาทองคำ
ไม่นานมานี้ Ray Dalio ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewater ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่าเงินดอลลาร์จะด้อยค่าลงในที่สุดและเขายังมองด้วยว่าสหรัฐฯจำเป็นต้อง Roll Over หรือซื้อหนี้สินของตัวเองไปเรื่อยๆหากนักลงทุนทั่วโลกพากันขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯออกมา เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงจนอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองโลกในที่สุด
Ray Dalio ยังกล่าวด้วยว่าการที่ FED ลดดอกเบี้ยจนทำให้ Risk Free Rate หรือพันธบัตรรัฐมีผลตอบแทน 0.0 – 0.5% ทั่วโลก ทำให้เงินปันผลจากตลาดทุนและสินทรัพย์อื่นเช่นทองคำ น่าสนใจกว่าถือเงินดอลลาร์และพันธบัตรรัฐบาล
ตั้งแต่ต้นปี 2020 ทองคำให้ผลตอบแทน YTD อยู่ที่ 18% ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดหากไม่นับสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ของโลกยกเว้น NASDAQ ยังให้ผลตอบแทนติดลบ ดัชนี Dollar Index อาจยังอ่อนค่าลงได้อีก
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Ray Dalio วิพากษ์ตลาดการเงินไร้ความเสรีอีกต่อไป ท้ายที่สุดดอลลาร์จะด้อยค่าลง