SIRI เล็งออก Subordinated Perpetual Bond ดอกเบี้ย 5 ปีแรก ที่ 8.50% ต่อปี รองรับแผนธุรกิจระยะยาว 3 ปี ตั้งเป้ายอดขายโต 1.2 แสนล้านบาท ตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน เปิดจอง 22-25 มิ.ย. 63 นี้
o บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมออก Subordinated Perpetual Bond หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ให้ดอกเบี้ยปีที่ 1 – 5 เท่ากับ 8.50% ต่อปี ในภาวะดอกเบี้ยขาลง เสนอขาย ผู้ลงทุนทั่วไป จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท เปิดจอง 22 – 25 มิ.ย. 63 นี้
o รองรับแผนการเติบโตระยะยาว 3 ปี ด้วยเป้าหมายยอดขาย 1.2 แสนล้านบาท หลังประกาศปรับเป้ายอดขายปี 63 เป็น 35,000 ล้านบาท รับยอดขาย 5 เดือนทะลุ 22,000 ล้านบาท
o ขณะที่เป้ารายได้ ขยับเพิ่มเป็น 32,000 ล้านบาท จากเดิม 27,000 ล้านบาท
o เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลังเตรียมเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ระดับราคา ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม มิกซ์โปรเจ็กต์และคอนโดมิเนียม
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า แสนสิริมีแผนเสนอขาย Subordinated Perpetual Bond หรือ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท สำหรับอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกเท่ากับ 8.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
ทั้งนี้บริษัทฯ จะเปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ดังกล่าวผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่งได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระหว่างวันที่ 22 -25 มิถุนายน 2563 โดยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทอยู่ที่ BBB+/Negative และอันดับความเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ BBB- จัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563
การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯครั้งนี้ นับเป็นการวางแผนด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งที่ยั่งยืนในระยะยาว ของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของการรักษาความเป็นเบอร์หนึ่ง ของการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย” อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง ซึ่งบริษัทมีแผนผลักดันยอดขายเติบโตสู่ 120,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ด้วยแผนรุกธุรกิจที่แข็งแกร่ง 3 แนวทางได้แก่
1. แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่รัดกุมพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา 2. การบริหารสต็อกที่ดี ปัจจุบันแสนสิริ มีสินค้าพร้อมขายมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่มีความสมดุลในตลาด 3. การบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่ดี โดยได้จัดสรรCash Flow เงินหมุนเวียนในบริษัทไว้ถึง 10,000 ล้านบาท มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์
บริษัทยังได้ปรับเป้ายอดขายปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินธุรกิจเพียง 5 เดือนที่ผ่านมาสร้างยอดขายไปได้กว่า 22,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 168% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็นถึง 76% ของเป้าหมายยอดขายเดิม
นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทได้ปรับประมาณการเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 32,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้เดิม 27,000 ล้านบาท จากการมองเห็นแนวโน้มรายได้และกำไรที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยบริษัทเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จ อาทิ ดีคอนโด ริน เชียงใหม่, คาวะ เฮาส์ รีสอร์ทคอนโดริมน้ำกลางสุขุมวิท ที่มียอดขายแล้วกว่า 80%, และ เดอะ เบส สุขุมวิท 50 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมเตรียมโอนอีกถึง 5 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ เดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต, ดีคอนโด บลิส ศรีราชา ชลบุรี, ลา ฮาบานา หัวหิน, เดอะ เบส สะพานใหม่ และ XT เอกมัย รวมถึงแผนการโอนโครงการแนวราบที่สร้างเสร็จพร้อมโอนอย่างต่อเนื่อง
“ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนธุรกิจในการเดินหน้าเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่รองรับการเติบโตอีก 14 โครงการ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท “ นายวันจักร์กล่าว
สำหรับเงื่อนไขสำคัญของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ประกอบด้วย 1. อายุของหุ้นกู้ หุ้นกู้ครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ไม่มีกำหนดอายุ ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีสิทธิให้ผู้ออกหุ้นกู้ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน แต่ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนเมื่อครบ 5 ปี 2. ลำดับการได้รับคืนเงิน ถ้าบริษัทเลิกกิจการ หุ้นกู้นี้จะมีลำดับการชำระหนี้หลังเจ้าหนี้ทั่วไป แต่ได้ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ 3. ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์เลื่อนชำระดอกเบี้ยได้
หุ้นกู้นี้ผู้ออกหุ้นกู้สามารถเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยยกยอดไปจ่ายวันใดๆ ก็ได้ไม่จำกัดระยะเวลา และจำนวนครั้ง แต่หากเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ ผู้ออกหุ้นกู้จะไม่สามารถประกาศหรือจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ 4. อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับทุกๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี
ผู้สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่งได้แก่ ธ.กรุงเทพ โทร 1333, ธ.กรุงไทย โทร 0-2111-111, ธ.กสิกรไทย โทร 0-2888-8888 กด 819, ธ.ไทยพาณิชย์ โทร 0-2777-6784, ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย โทร 0-2626-777 และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส โทร 0-2658-9500 หรือ www.sansiri.com; โทร.1685 หรือสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ทิสโก้ เปิด 4 ธีมการลงทุน รับประโยชน์โลกเปลี่ยนหลัง COVID-19 ระบาด