การระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังกระทบต่อเงินในกระเป๋าอีกด้วยเพราะเศรษฐกิจที่หยุดชะงัก หลายคนต้องหยุดทำงานหรือหยุดทำธุรกิจทำเอารายได้หลายไปด้วย บางคนถูกลดเงินเดือน ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นทำให้ภาครัฐต้องลงมาช่วยเหลือ ทั้งนโยบายแจกเงินเยียวยา 5,000 บาท หรือพักต้นพักดอก
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้คนไทยมีความตระหนักทางด้านการวางแผนการเงินมากขึ้น ที่ผ่านมาคนไทยมีหนี้ค่อนข้างมากทำให้ขึ้นชื่อว่ามีหนี้สินภาคครัวเรือนสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก
5 ข้อต่อไปนี้น่าจะเป็น นิสัยทางการเงิน ที่ควรจะเริ่มต้นหลังวิกฤติโควิด-19จบลงหรือถ้าเป็นไปได้ก็ควรที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เลย..มีดังนี้
รู้จักเก็บเงินสดสำรองอย่างน้อย 3 เดือน
การที่ภาคธุรกิจต้องหยุดชะงัก รายได้ที่เคยได้ต่อเนื่องต้องขาดตอน จนถึงกับเงินไม่พอใช้จ่าย สิ่งนี้บอกกับเราว่าโลก “ไม่มีความแน่นอนสูง” ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ชนิดที่เราไม่รู้ตัวล่วงหน้า
การเก็บออมเงินสำรองอย่างน้อย 3 เดือนจึงเป็นสิ่งที่ควรเริ่มต้นทำหลังจากวิกฤติผ่านพ้นไปแล้ว อย่างน้อยทำให้เราไม่ต้องลำบากมากหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
วิธีการเก็บเงิน อาจจะฝากไว้ในบัญชีธนาคารก็ได้แต่แนะนำว่าควรเป็นบัญชีที่ถอนยากหน่อยหรือไม่ทำบัตรเดบิต เพราะถ้าถอนง่ายเกินไปอาจจะมีแอบถอนมาใช้ซึ่งจะผิดวินัย สร้าง นิสัยทางการเงิน ที่ไม่ดีแต่ก็ไม่ควรไปฝากประจำที่มีระยะเวลานานมากนักเพราะถ้าฉุกเฉินอาจจะถอนออกมาใช้ไม่ได้
หรืออีกวิธีคือการฝากไว้กับกองทุนตราสารหนี้เพราะมีสภาพคล่องสูงสามารถขายออกมาได้โดยใช้เวลาเพียงวันเดียวแถมผลตอบแทนอาจจะสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์
เริ่มต้นทำประกันชีวิต–ประกันสุขภาพ
จากสถิติคนไทยยังทำประกันชีวิตกันน้อยมากเพียงแค่ 37% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่ประเทศอื่นๆมีตัวเลขที่สูงกว่านี้ แต่หลังวิกฤติโควิด-19 น่าจะเป็นการกระตุ้นให้คนไทยรู้จักความสำคัญของการทำประกันมากขึ้น เพราะ “ความเสี่ยง” ในชีวิตเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เห็นได้จากประกันสุขภาพเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่ขายดีมากในช่วงที่ผ่านมา หลังจากนี้ไปคนไทยน่าจะต้องซื้อประกันสุขภาพติดตัวกันไว้บ้าง รวมถึงประกันชีวิต เพราะโรคภัยใหม่ๆพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลงได้พอสมควร แถมยังได้ลดหย่อนภาษีอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำความรู้จักประกันชีวิตรูปแบบต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษี-ประกันสุขภาพ
หัดลงทุนสร้างผลตอบแทน
ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดหุ้นและสินทรัพย์การลงทุนอื่นๆปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนหวังผลระยะยาว ถ้ามีเงินเย็นเก็บไว้และมีความรู้ด้านการลงทุน จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี หรือแม้แต่การเป็นรายได้เสริมเล็กๆน้อยไปจนถึงอาชีพใหม่
เราจึงควรเริ่มต้นที่จะศึกษาการลงทุนให้เป็นส่วนหนึ่งของนิสัยทางการเงินโดยเริ่มต้นจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำไปก่อน เช่น ตราสารหนี้ กองทุนรวม ไปจนถึงตลาดหุ้น ทองคำและอนุพันธ์
ในยุคที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปี ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องศึกษาเรื่องการลงทุนเพื่อให้สามารถเกษียณได้อย่างเป็นสุข ไม่จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงมาก แค่ลงทุนให้ผลตอบแทนเอาชนะเงินเฟ้อได้ก็พอ
จัดการหนี้ตัวเองอย่าให้เต็มเพดาน
จากตัวเลขที่คนไทยมีภาระหนี้ครัวเรือนที่ค่อนข้างสูง ทำให้เวลาที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจจึงเกิดปัญหาขาดความสามารถในการชำระหนี้จนทำให้เกิดนโยบายพักต้นพักดอกเกิดขึ้น
ตามหลักการบริหารเงิน เราควรมีภาระหนี้สินรวมต่อรายได้ทั้งหมดต่อเดือนเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น โดยหนึ่งส่วนจะต้องเป็นเงินเก็บหรือเงินลงทุน อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่าย แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนไทยน่าจะมีภาระหนี้ถึงสองในสามของรายได้ซึ่งถือว่าค่อนข้างตึงมาก
ประกอบกับการสร้างหนี้หลายด้านในเวลาเดียวกัน เช่น หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ บัตรเครดิต ผ่อนมือถือ ฯลฯ จนทำให้พฤติกรรมการชำระหนี้ไม่ได้จ่ายเต็มแต่จ่ายขั้นต่ำ ซึ่งทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยที่สูง
หลังวิกฤติครั้งนี้จบลงจึงเป็นโอกาสที่จะทบทวนการก่อหนี้ของตัวเองให้ไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป อย่าลืมว่าการปลอดหนี้คือการทำให้ชีวิตของเราเบาขึ้น
มีรายได้เสริมหลายทาง
ผลกระทบที่รายได้ต้องขาดตอนจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ทำให้เราทุกคนควรต้องหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งใน New Normal ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
โดยเฉพาะกระแสการซื้อของออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการที่บ้านเมืองถูก Lockdown รวมถึง Work From Home และการเปิดกลุ่มเฟซบุ๊คฝากร้านที่เกิดขึ้นอย่างมากมายน่าจะทำให้วิถีชีวิตของคนไทยหลังจากนี้มีการสร้างรายได้เสริมให้ตัวเอง โดยเฉพาะการขายของออนไลน์มากขึ้น
การมีรายได้เสริมมากกว่าหนึ่งทางจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินลงได้ดีกว่าการพึ่งารายได้ทางเดียวที่หากขาดไปจะส่งผลกระทบต่อชีวิตเราเป็นอย่างมาก
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ นิสัยทางการเงิน ที่เราควรเริ่มต้นศึกษาตั้งแต่วันนี้ เพราะคำว่า “วิกฤติ” มันจะมาหาเราชนิดที่ไม่รู้ตัว ไม่มีการแจ้งเตือน ถ้าเราไม่สร้างเกราะคุ้มกันทางการเงินเอาไว้ก็มีสิทธิที่จะพ่ายแพ้ให้กับวิกฤติได้
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 5 ความจริงของนโยบายพักต้นพักดอกและ How To Survive