ในช่วงที่ผ่านมามาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เกิดความสับสนโดยเฉพาะการจ่าย เงินเยียวยา 5,000 บาท
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ประมวลคำถามและข้อสงสัยที่พบมากที่สุด ต่อมาตรการเยียวยา 5,000 บาท มี 12 ข้อ ดังนี้
1. ผู้ที่ไม่ได้มีเจตนาขอยกเลิกสิทธิ์แต่ได้กดปุ่มยกเลิกสิทธิ์ไปในช่วงก่อนหน้าจะสามารถเริ่มขอทบทวนสิทธิ์ได้เมื่อใด
ขณะนี้หากยกเลิกการลงทะเบียนแล้ว จะไม่สามารถลงทะเบียนหรือเข้าไปแก้ไขข้อมูลใด ๆ ได้ อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปกระทรวงการคลังจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยกเลิกการลงทะเบียนโดยเข้าใจผิด สามารถขอทบทวนสิทธิ์ได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตรวจสอบและคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้ง
2. เงินเยียวยา 5,000 บาทในรอบเดือนพฤษภาคม 2563 จะเริ่มทำการโอนเข้าบัญชีเมื่อใด
ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินเยียวยาในรอบเดือนพฤษภาคมจะตรงวันกับวันที่ได้รับเมื่อเดือนเมษายน เช่น ได้รับวันที่ 8 เมษายน ก็จะได้วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และ 8 มิถุนายน 2563 สำหรับรอบ 2 และ รอบ 3 ตามลำดับ ยกเว้นหากตรงกับวันหยุดราชการหรือวันหยุดธนาคารจำเป็นต้องเลื่อนออกเป็นวันทำการถัดไป
3. กรณีที่มีทะเบียนเกษตรกรแต่ไม่ได้ประกอบอาชีพดังกล่าวแล้วจะสามารถขอเข้ารับการทบทวนสิทธิ์ได้หรือไม่
หากท่านไม่ได้รับสิทธิ์ เนื่องจากเป็นเกษตรกร แต่ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรแล้ว ท่านสามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. 2563 ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาจัดสรรเงินเยียวยา ทั้งนี้ ผู้ผ่านการทบทวนสิทธิ์จะยังได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือน เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์
4. กลุ่มผู้ลงทะเบียนรอบแรกที่มีสถานะว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือสถานะที่ได้รับว่าขอข้อมูลเพิ่มเติมและอยู่ระหว่างการตรวจสอบจะได้รับการแจ้งผลการพิจารณาสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาทอย่างช้าที่สุดภายในวันใด
กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนกว่า 27 ล้านคน เพื่อให้เงินเยียวยาถึงมือทุกคนที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วที่สุด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทาง SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือและอีเมลที่ท่านลงทะเบียนโดยเร็วที่สุด หรือสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนของท่านได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com
5. กระบวนการหลังยื่นทบทวนสิทธิ์กรณีเงินเยียวยา 5,000 บาททำไมถึงต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ทั้งๆที่รัฐบาลมีข้อมูลผู้ลงทะเบียนอยู่แล้วและสามารถมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ทันทีแสดงให้เห็นถึงรัฐบาลผิดสัญญาและหลอกลวงประชาชนเพื่อหวังซื้อเวลาไปเรื่อยๆโดยไม่เห็นใจความยากลำบากของประชาชน
1. ขณะนี้กระทรวงการคลังได้เปิดให้กลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) และประสงค์จะขอทบทวนสิทธิ์ สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาการจัดสรรเงินเยียวยาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยข้อมูล ณ วันที่ 22 เม.ย. 2563 มีผู้ยื่นขอทบทวนสิทธิ์แล้วกว่า 1.9 ล้านคน
2. สำหรับการดำเนินการทบทวนสิทธิ์ หลังจากผู้ที่ยื่นทบทวนสิทธิ์มาแล้ว กระทรวงการคลังจะนำข้อมูลของผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์ เช่น อาชีพ ชื่อสถานประกอบการ สถานที่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ เป็นต้น มาประมวลผลเพื่อคัดกรองก่อนอีกครั้งก่อนที่จะจัดสรรให้เจ้าหน้าลงพื้นที่ และเจ้าหน้าที่จะต้องยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพของผู้ลงทะเบียนผ่านระบบที่ออกแบบไว้ เพื่อนำข้อมูลจากการลงพื้นที่มาประกอบการพิจารณาให้สิทธิ์รับเงินเยียวยาต่อไป ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ มีกลไก มีขั้นตอน และต้องใช้เวลาดำเนินการ ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาแต่อย่างใด
3. อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระบวนการทุกอย่างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เงินถึงมือประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็ว
6. กรณีนักเรียนนักศึกษาที่เรียนไปด้วยทำงานส่งตัวเองเรียนไปด้วยนั้นจะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทหรือไม่
มาตรการฯ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่มีการประกอบอาชีพเป็นหลัก ได้แก่ ลูกจ้าง แรงงาน หรือผู้ประกอบการอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 โดยได้รับผลกระทบ เช่น มีรายได้ลดลง ไม่มีรายได้ ชั่วโมงการทำงานลดลง หยุดงาน ปิดกิจการ เป็นต้น
7. ผู้ประกันตนมาตรา 39 มีสิทธิ์จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทหรือไม่
หากท่านเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะมีระบบคัดกรองและตรวจสอบคุณสมบัติของท่านอีกครั้งหนึ่ง
8. คนที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 จำเป็นต้องเป็นพร้อมเพย์เท่านั้นใช่หรือไม่
ผู้ลงทะเบียนสามารถระบุช่องทางที่ท่านประสงค์รับเงินได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) รับเงินผ่านบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่ท่านมี หรือ 2) รับเงินผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน (ซึ่งมีบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่ท่านมีรองรับ) โดยระบบจะโอนเงินเยียวยาให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ผ่านช่องทางที่ได้ระบุไว้
9. ทำไมข้อมูลที่จะให้ประชาชนยื่นทบทวนสิทธิ์ยังเป็นชุดคำถามเดิมที่เคยกรอกไปแล้วนอกจากนี้จากที่ภาครัฐบอกว่าให้ประชาชนเตรียมภาพ 3 ภาพเอาไว้นั้นเพื่อ Upload ภาพประกอบเป็นหลักฐานเมื่อตรวจสอบพบว่าในระบบไม่มีช่องให้ Upload ภาพ
ขณะนี้ระบบการยื่นทบทวนสิทธิ์ จะให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ระบุข้อมูลใหม่อีกครั้งหนึ่ง เช่น อาชีพ ชื่อสถานประกอบการ สถานที่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ เป็นต้น เพื่อความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ของข้อมูล และจะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาทบทวนสิทธิ์ โดยไม่ได้มีการให้แนบเอกสารหรือหลักฐานรูปภาพใด ๆ เข้าสู่ระบบ ทั้งนี้ กลไกในการดำเนินการทบทวนสิทธิ์ จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาให้สิทธิ์รับเงินเยียวยาต่อไป
10. ผู้ลงทะเบียนมีอาชีพเดียวกันอยู่บ้านเดียวกันคนนึงได้คนนึงไม่ได้ระบบการตรวจสอบไม่ดีหรือไม่
การคัดกรองและตรวจสอบของแต่ละคนที่ลงทะเบียนจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากกระทรวงการคลังมีการตรวจสอบคุณสมบัติหลายด้านประกอบกันจากฐานข้อมูลของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการปกครอง สำนักงานประกันสังคม กรมขนส่งทางบก กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิ์ผ่านทาง SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือและอีเมลที่ท่านลงทะเบียนโดยเร็วที่สุด หรือสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนของท่านได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com
11. ทำไมรัฐบาลไม่เคลียร์สถานะที่ค้างในระบบให้หมดก่อนแล้วค่อยมีระบบทบทวนสิทธิ์เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนจำนวนมากที่อยู่ “ระหว่างการตรวจสอบ” และ “อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่นำส่งเพิ่ม” ยังไม่ได้รับ เงินเยียวยา 5,000 บาท แต่คนที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ผ่านการคัดกรองแล้ว
การดำเนินการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนจะดำเนินการโดยระบบ ส่วนการทบทวนสิทธิ์ ให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์และประสงค์จะขอทบทวนสิทธิ์ จะมีกลไกการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อยืนยันตัวตนและความเดือดร้อนของผู้ลงทะเบียน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาให้สิทธิ์รับเงินเยียวยา ซึ่งการดำเนินการทั้ง 2 ส่วนมีการดำเนินการที่แตกต่างกัน คนละขั้นตอนกัน และคนละกลุ่มบุคคลกัน ดังนั้น จึงสามารถดำเนินการทบทวนสิทธิ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ดำเนินการตรวจสอบและคัดกรองเสร็จสิ้นก่อนแต่อย่างใด
12. เข้าไปแก้ไขบัญชีแล้วผูกพร้อมเพย์ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนแล้วโทรไป call center บอกว่าเงินจะเข้าวันที่ 22 เมษายนทำไมเช็คแล้วณตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินเข้า
หากท่านเป็นผู้ที่แก้ไขบัญชีเนื่องจากข้อมูลบัญชีไม่ตรงกับชื่อที่ลงทะเบียน หากแก้ไขแล้วจะมีการโอนเงินเยียวยาซ้ำในวันที่ 23 เมษายน 2563 สำหรับกลุ่มที่จะได้รับการโอนเงินซ้ำในวันที่ 22 เมษายน 2563 จะเป็นกลุ่มที่บัญชีถูกปิด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : A New World โลกหลังวิกฤติ Covid-19 (ตอนที่ 1)