ตลาดหุ้น นับเป็นวิธีการสร้างความมั่งคั่ง (Wealth) ที่ใช้เงินทุนน้อยและเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาแสวงหาผลตอบแทนได้ แต่สำหรับ มนุษย์เงินเดือน ที่มีภาระหน้าที่การงาน ต้องเล่นหุ้นเป็นงานรองจะเข้ามาสร้างความมั่งคั่งได้ต้องผ่านกฎเหล็กดังนี้
ออมเงินให้เป็นก่อน
เป็นขั้นตอนแรกที่ทุกคนจะต้องทำให้ได้ เพราะเงินที่จะนำมาลงทุนควรจะต้องเป็นเงินเย็นที่เหลือจากส่วนที่ต้องใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆรวมถึงใช้หนี้ทั้งหมดแล้ว เราควรตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองว่าจะออมเงินจากเงินเดือนหรือรายได้เดือนละเท่าไร โดยคำนวนรายรับรายจ่ายเสียก่อน เมื่อได้ตัวเลขที่เหมาะสมแล้วต้องทำให้ได้อย่างต่อเนื่องด้วย
อย่าคาดหวังผลตอบแทนสูงๆ
ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าคนที่ทำงานประจำก็ต้องทุ่มเทให้กับการทำงานให้องค์กรเป็หลักไม่ใช่ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ออฟฟิศมาใช้เล่นหุ้น การที่ไม่สามารถโฟกัสกับตลาดหุ้นได้ตลอดเวลา จึงไม่สามารถที่จะเทรดสินค้าที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงๆอย่างพวก Futures หรือ DW ได้ หากไปฝืนเล่นอาจส่งผลเสียเนื่องจากสินค้าพวกนี้มีความผันผวนสูง สินค้าที่สามารถเทรดได้จึงมีเพียงแค่หุ้นพื้นฐานดีซึ่งมีความเสี่ยงต่ำแต่ราคาไม่มีความผันผวนมากพอจะสร้างผลตอบแทนสูงๆได้
Full-Time Trader ไม่ใช่เป็นได้ทุกคน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากจะออกมาเทรดหุ้นเต็มเวลาหรือ Full-Time Trader เพราะไม่อยากที่จะทำงานประจำ ในความจริงแล้วเทรดเดอร์เต็มเวลาก็ยังต้องทำงานและอาจจะทำงานมากกว่าตอนที่ทำงานประจำด้วย แถมยังต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเสียอีก หากผิดวินัยไปเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้ล้มเหลวได้เลยทีเดียว ไม่นับความผันผวนในตลาดหุ้นที่รายย่อยส่วนมากไม่สามารถรับมือไหว ผู้ที่จะมาเป็นเทรดเดอร์เต็มเวลาได้จึงมีจำนวนไม่มากนัก แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เพียงแต่ต้องทุ่มเทตัวเองอย่างมาก
ลงทุนแบบ Active
ในรอบสิบปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย (นับจากการเติบโตของดัชนี SET Index) เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปีเป็นตัวเลขที่ไม่ยากนักหากมีความรู้และประสบการณ์ แต่นั่นเป็นการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนล้อกับดัชนีหรือ Passive หากต้องการสร้างผลตอบแทนที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ จะต้องลงทุนแบบ Active หรือมุ่งหวังที่จะเอาชนะภาพรวมตลาดให้ได้ ซึ่งอาจจะต้องสร้างผลตอบแทนให้ได้ตั้งแต่ 12-15% ขึ้นไป เทียบกับ Full-Time Trader ที่จะต้องทำได้ 100% ต่อปีขึ้นไป
หาโมเดลการลงทุนเป็นตัวช่วย
หากจะลงทุนแบบเน้น Active จำเป็นที่จะต้องมีวิธีการเทรดหรือ Trade Setup ที่เหมาะสมทั้งในแง่ของวิธีการเทรดที่ต้องจำกัดความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งแนวทางการเทรดที่เหมาะสมน่าจะเป็น Swing Trade ซึ่งเล่นรอบเก็งกำไรระยะกลางมากกว่าการเล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้นแบบ Daytrade
มีวินัยในตัวเอง
เราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยหากขาดวินัยในการลงทุน โดยต้องเน้นความสม่ำเสมอของผลงานมากกว่าสร้างผลตอบแทนได้สูงในช่วงเวลาหนึ่งแต่ขาดทุนหนักในเวลาต่อมา ที่สำคัญคือจิตใจต้องไม่ฮึกเฮิมเกินไปเมื่อทำกำไรได้และต้องไม่เสียความมั่นใจถ้าทำไม่ได้ตามแผน
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 6 เคล็ดไม่ลับการลงทุนหุ้นสำหรับมือใหม่