5-Step process นี้นับว่าเป็นหลักคิด แก่น และส่วนสำคัญในหนังสือ Principles หนึ่งในหนังสือธุรกิจที่ได้รับการแนะนำมากที่สุด จากผู้เขียน Ray Dalio นักลงทุนและนักธุรกิจผู้ก่อตั้ง Hedge Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater Associates
หลักคิดทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้มีคุณค่ามหาศาลมาก ทั้งในเชิงการใช้ชีวิต และการทำงาน จากการกลั่นประสบการที่ยาวนานของผู้เขียน เรียบเรียงด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย เป็นการอธิบายในเชิงนำไปปฏิบัติได้จริง
โดยหลักคิดทั้งหมดผู้เขียน Ray Dalio ต้องการที่จะถ่ายทอดเบื้องหลังหลักการในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จของเค้า ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Principles ที่จะสามารถนำออกมาใช้เมื่อเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ให้เราสามารถคิดและตัดสินใจให้ดีขึ้นได้
ตลอดทางการอ่านหนังสือเล่มนี้ มีหลายหลักคิดที่น่าทึ่ง แต่มีหลักคิดหนึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษ และอยากนำมาแบ่งปันต่อ ซึ่ง Ray Dalio ได้เรียกหลักการนี้ว่า “The 5-Step Process to Get What You Want Out of Life” กระบวนการที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในทุกเป้าหมาย ประกอบไปด้วย (1) Goal มีเป้าชัด (2) Problem รับรู้ถึงปัญหาที่ขวางทางความสำเร็จ (3) Diagnosis หาต้นเหตุ สาเหตุ รากของปัญหา (4) Design วางแผนรับมือและเผชิญหน้ากับปัญหา และ (5) Doing ต้องลงมือทำ
The 5-Step Process to Get What You Want Out of Life
หลักคิดนี้เมื่อทั้ง 5 ขั้นตอนทำต่อเนื่องกัน จะเกิดเป็น loop วงจรที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จในทุกเป้าหมายในชีวิต ทั้งในปัจจุบัน และเป้าหมายใหม่ในอนาคต
ในส่วนนี้ Ray ให้คำแนะนำว่า เราต้องทำทีละขั้นตอนตามลำดับ การทำในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดจะช่วยให้เรามีข้อมูลเพียงพอสำหรับข้อถัดๆไป ที่สำคัญเราควรจะในอารมณ์ที่สงบ สามารถดึงศักยภาพการคิดด้วยหลักเหตุและผลออกมาได้เต็มที่
ในแต่ละขั้นตอนผมจะยกข้อแนะนำจาก Ray ที่สำคัญๆ แต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด
1 Have clear goals การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของคุณ
จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย : หลายครั้งการเลือกเป้าหมายบางอย่าง หมายถึงคุณต้องละทิ้งความต้องการบางอย่าง เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่คุณต้องการมากกว่า ไม่ควรที่จะพยายามที่จะทำเป้าหมายหลายๆอย่างให้สำเร็จพร้อมกันในคราวเดียว
อย่าสับสนระหว่างเป้าหมายกับความต้องการ : เป้าหมายคือสิ่งที่คุณต้องการทำให้สำเร็จ แต่ความต้องการ คือ สิ่งที่คุณอยากทำ และมันอาจจะไปขัดขวางไม่ให้คุณถึงเป้าหมาย เช่น มีเป้ามหายที่จะลดน้ำหนัก แต่มีความต้องการที่จะกินอาหาร Fast food
การเรียนรู้ในการรับมือความล้มเหลวสำคัญเท่ากับการก้าวไปข้างหน้า
2 Identify and don’t tolerate problems ระบุปัญหาและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหานั้น
มองทุกปัญหาเป็นโอกาสที่จะพัฒนาปรับปรุง : คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะยอมรับและเผชิญหน้ากับปัญหา เพราะคิดว่าจะเป็นการเปิดเผยจุดอ่อน แต่คนที่ประสบความสำเร็จพวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอะไรกับปัญหาและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน
ต้องระบุเจาะจงปัญหาให้ชัดเจน : แต่ละปัญหาที่แตกต่างกัน จะมีวิธีแก้ไขปัญหาที่ต่างกัน
เมื่อระบุปัญหาได้แล้วอย่าทนอยู่กับปัญหานั้น เพราะการทนอยู่กับปัญหานั้นจะให้ผลลัพท์เดียวกับเราการที่เราระบุปัญหาไม่ได้
3 Diagnose problems to get at their root causes วินิจฉัยปัญหาถึงต้นเหตุและสาเหตุที่แท้จริง
มุ่งเน้นไปสู่หาว่า “ปัญหาคืออะไร” ก่อนจะตัดสินใจว่า “จะทำยังไงกับมัน”
แยกให้ออกระหว่าง “สาเหตุที่ใกล้เคียงน่าจะเป็นไปได้” กับ “สาเหตุที่แท้จริง” : สาเหตุที่ใกล้เคียง มักจะการเลือกกระทำ หรือไม่ได้กระทำ จนนำไปสู่ปัญหา เช่น ตกรถไฟ เพราะไม่ได้เช็คตรารางรถไฟ แต่ถ้าหากวิเคราะห์ลึกลงไปกว่านั้นจะพบว่า ไม่ได้เช็คตารางรถไฟ จริงๆแล้วเป็นเพราการหลงลืม ดังนั้นปัญหาที่แท้จริงคือ “การลืม”
4 Design a plan วางแผนรับมือกับปัญหา
โปรดจำไว้ว่าโดยทั่วไปจะมีเส้นทางมากมายในการบรรลุเป้าหมายของคุณ คุณแค่จะต้องค้นหาเพียงหนึ่งเส้นทางที่ใช้
คิดว่าแผนของคุณเป็นเหมือนสคริปต์ภาพยนตร์ที่คุณเห็นภาพว่าใครจะทำอะไรได้ตลอดเวลา ในมุมมองของผม ถ้าเราสังเกตุเมื่อเราช่วยวางแผนแก้ปัญหาให้คนอื่น ไม่ว่าเรื่องนั้นจะยากแค่ไหน เราก็มักจะที่จะหาวิธีแก้หรือทางออกได้ไม่ยาก แต่ถ้ากลับกันเรื่องเดียวกันแต่มาเกิดกับตัวท่านเอง ท่าน ก็จะมักคิดไม่ตก ดังนั้นวิธีที่ Ray แนะนำเป็นการที่จะช่วยให้ท่านมองและคิดแก้ปัญหาให้ตัวเองในมุมมองของบุคคลที่สาม เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจในเรื่องต่างๆมากขึ้น
5 Push through to completion ลงมือทำผลักดันในบรรลุเป้าหมาย
ถึงจะเป็นนักวางแผนที่ยอดเยี่ยมแต่ถ้าไม่ลงมือทำตามแผน ก็จะไม่ก้าวหน้าไปไหน เพื่อผลักดันไปสู่เป้าหมายจะต้องอาศัยการมีวินัยในตนเองเป็นส่วนสำคัญ และต้องรู้เสมอว่าเราทำสิ่งนี้ไป “ทำไม”
สร้างตัวชี้วัดที่ชัดเจนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังติดตามแผนของคุณ การมีตัวชี้วัดและการวัดผลได้ของเป้าหมายนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้นได้ Ray ได้ให้คำแนะนำไว้ว่าสำหรับคนที่ไม่ถนัดในการวัดผลและติดตามแผนของตัวคุณเอง อาจจะลองมองหาใครสักคนที่เป็นกลางมาช่วยวัดและบอกถึงความคืบหน้าให้เราได้
สรุป key takeaway
สำหรับ 5-Step process ของ ray dalio นั้นย้ำชัดเจนว่าเพื่อที่จะมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จ จะต้องทำทั้ง 5 ขั้นตอนทำทีละขั้นตอนตามลำดับ ขณะอยู่ในสภาวะที่พร้อมทางด้านจิตใจ สมองปลอดโปร่ง และต้องเขียนออกมาลงในการดาษ
ตัวอย่างเช่น (1) Goal เมื่อกำหนดเป้าหมายต้องคิดเพียงแค่กำหนดเป้าหมาย อย่าคิดว่าจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรหรือต้องทำอะไรถ้ามีอะไรผิดพลาด (2) Problem เมื่อรับรู้ถึงปัญหาที่ขวางทางความสำเร็จ ให้หาสาเหตุที่แท้จริง (3) Diagnosis เมื่อกำลังวินิจฉัยปัญหาอย่าคิดว่าคุณจะแก้ปัญหาอย่างไร (4) Design เมื่อวางแผนรับมือและเผชิญหน้ากับปัญหา ให้มองหาทางที่ใช่ผ่านมุมมองบุคคลที่ 3 และสุดท้าย (5) Doing เมื่อต้องลงมือทำ ทำสิ่งที่จะผลักดันให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ตามแผนที่ได้วางไว้
สุดท้ายนี้ 5-Step process นั้นเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆหลักคิดสำคัญจากหนักสือ “Principle” ยังมีอีกหลายหลักคิดที่น่าสนใจ ผมจึงอยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านกันนะครับ
ใครสนใจสั่งซื้อหนังสือสามารถไปที่เวบไซท์ https://www.investing.in.th/principles ได้เลย