ซื้อหุ้นคืน นักลงทุนต่างชาติ

ผ่ากลยุทธ์ “ซื้อหุ้นคืน” คำตอบที่ใช่ในภาวะวิกฤต?

โดย SM1984

ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ดิ่งหนักต่ำสุดในรอบ 3 ปี ผลกระทบจาก ไวรัสโคโรนา ซ้ำเติมหนัก เหตุเศรษฐกิจไทยพึ่งพาตลาดจีนเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทจดทะเบียนที่ราคาหุ้นร่วงหนักต้องงัดแผนการ ซื้อหุ้นคืน มาใช้ บ่งบอกว่าผลกระทบครั้งนี้สร้างความเสียหายไม่ต่างจากวิกฤตครั้งที่ผ่านๆมา

ข่าวที่สร้างความประหลาดใจให้กับวงการตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาคือธนาคารกสิกรไทยซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ตัวหนึ่งใน SET Index ประกาศที่จะซื้อหุ้นคืน เพื่อพยุงราคาหุ้น เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นบริษัทขนาดใหญ่ออกมาตัดสินใจเช่นนี้ ขณะเดียวกันยังได้เห็นบริษัทจดทะเบียนอื่นๆออกมาประกาศซื้อหุ้นคืนด้วยเช่นกันเพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก

ในภาวะที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นซบเซา จนส่งผลต่อดัชนี SET Index และราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวลดลง การซื้อหุ้นคืน จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน แนวทางดังกล่าวมีมาตั้งแต่วิกฤตซับไพร์ม วิกฤตการเมือง ภายในประเทศ ฯลฯ

การที่บริษัทจดทะเบียนไทยเริ่มตัดสินใจ ซื้อหุ้นคืน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่สุดขีด!!

ทั้งนี้การซื้อหุ้นคืน บริษัทจดทะเบียนจะนำเงินสดภายในของบริษัทมาใช้ซื้อหุ้นในตลาดเพื่อเป็นการพยุงราคาในกระดานโดยจำนวนหุ้นที่ซื้อเข้ามาจะไม่ไปเพิ่มในส่วนของผู้ถือหุ้นแต่อย่างไร

การซื้อหุ้นคืน มีข้อดีคือราคาหุ้นจะตอบสนองเชิงบวกในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนมองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นแน่นอนอย่างน้อยก็เท่ากับราคาที่บริษัทจด ทะเบียนนั้นได้ประกาศออกมา

ที่สำคัญคือนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในหุ้นตัวนั้น เนื่องจากการที่ผู้บริหารหรือเจ้าของหุ้นซื้อหุ้นคืน เป็นการสะท้อนว่าพวกเขามองราคาหุ้นตัวเองต่ำเกินไป นอกจากนี้ในแง่งบการเงิน เมื่อส่วนของทุนลดลงจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุน (ROE) สูงขึ้น กำไรต่อหุ้น (EPS) จะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม การซื้อหุ้นคืนมีข้อเสียเช่นกันเพราะเงินสดภายในบริษัทจะลดลง แทนที่จะนำเงินนั้นไปลงทุนเพิ่มเติมและอาจเพิ่มภาระหนี้ให้กับบริษัทด้วย

ที่สำคัญ การซื้อหุ้นคืนจะไม่มีประโยชน์หากพื้นฐานของธุรกิจไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การซื้อหุ้นคืนจะเป็นเพียงแค่การกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น นักลงทุนควรจะต้องตัดสินใจให้ดีว่าการซื้อหุ้นคืนนี้เป็นเพียงแค่การเก็งกำไรระยะสั้นแต่พื้นฐานกิจการไม่ได้ดีขึ้นหรือทำเพื่อช่วยเหลือนักลงทุนจริงๆในภาวะที่พื้นฐานกิจการยังไปได้ดีแต่ภาวะตลาดโดยรวมไม่อำนวย

บล.เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยผลวิจัยว่าการประกาศซื้อหุ้นคืนมักส่งผลดีต่อราคาหุ้นในช่วงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาที่ดีสุด คือช่วง 1 เดือนหลังประกาศ มักมีโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 2.6% (บางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10%)

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 4 บริษัท ประกอบด้วย CK, KBANK, SPALI และ TPIPL ซึ่งราคาหุ้นหลังประกาศถึงปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี 5.3%, 5.9%, 1.8% และ 3.3% ตามลำดับ แม้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 3.5% ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63

หากดูข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ในกลุ่มตัวอย่างบริษัท ที่ประกาศ ซื้อหุ้นคืน เกือบทั้งหมดราว 42 บริษัท และส่วนใหญ่จะประกาศซื้อหุ้นคืนในปีที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรงเสมอ เช่น ปี 58 ดัชนีหุ้นปรับฐาน 14% (ลดลงมากสุดใน 10 ปี ที่ผ่านมา) มีบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน 5 บริษัท และมีต่อเนื่องในช่วงต้นปี 59 อีก 4 บริษัท ซึ่งในปี 59 ดัชนีหุ้นฟื้นตัวกว่า 19.8%

ส่วนปี 61 ดัชนีหุ้นไทยลดลง 10.8% (ลดลงมากสุดเป็นอันดับ 2 ใน 10 ปี ที่ผ่านมา) มีการประกาศซื้อหุ้นคืน 13 บริษัท หลังจากนั้น 6 เดือน ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% (ช่วง ครึ่งแรกของปี 62 ) ขณะที่ปี 62 ส่วนใหญ่มีการประกาศซื้อหุ้นคืนในช่วงครึ่งหลังของปีราว 15 บริษัท หลังจากดัชนีปรับฐานลงมาเยอะ

หากพิจารณาโดยภาพรวมของดัชนีสังเกตได้ว่าหลังจากบริษัทออกมาประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนมาก ดัชนีมักจะตอบสนองในเชิงบวกและมีโอกาสรีบาวด์กลับในระยะถัดไปเสมอ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะนักลงทุน ตอบรับสัญญาณที่ผู้บริหารส่งออกมาว่าราคาหุ้นมีมูลค่าที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน แต่อย่างไรก็ตามความต่อเนื่องในการปรับขึ้นของราคาหุ้นยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมอื่น ๆ ด้วย เฉพาะอย่างยิ่งแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้า

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ได้ทำการวิเคราะห์ค้นหาช่วงเวลาในการลงทุนหุ้นที่ถูกซื้อหุ้นคืน จากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี พบว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ “ซื้อหุ้นดังกล่าวในวันที่ประกาศ และขายทำกำไรใน 1 เดือนถัดมา” มีโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกราว 2.6% (บางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10%)

ผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นหลังทำการซื้อหุ้นคืน

3 วัน +2.4%

7 วัน +2%

14 วัน +1%

30 วัน +2.6%

90 วัน 0%

180 วัน -1.1%

270 วัน -4%

หมายเหตุ : ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี โดย บล.เอเชียพลัส

เนื่องจากการซื้อหุ้นคืนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพยุงราคาหุ้น บวกกับความคาดหวังกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น จากจำนวนหุ้นที่ลดลงตามจำนวนที่ซื้อคืน รวมถึงเป็นการส่งสัญญาณของผู้บริหารว่าหุ้นบริษัทตัวเองถูกเกินไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นราคาส่วนใหญ่จะย่อตัวลงตามลำดับ โดยเฉพาะหลังจากประกาศ ซื้อหุ้นคืน เกิน 6 เดือน ผลตอบแทนที่ได้มีโอกาสย่อตัวจนติดลบ เนื่องจากบริษัทมีระยะเวลาในการซื้อหุ้นคืนได้ไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กดดันราคาและยังสอดคล้องกับสถิติในอดีต และหลาย ๆ บริษัทให้ผลตอบแทนติดลบ สวนทางตลาดที่เริ่มฟื้นขึ้น

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : เทคนิคการอ่านกราฟแท่งเทียน (Candle Stick)

Related Posts