ราคา BNB

วิเคราะห์อนาคต BNB กับการเป็นโทเคนอันดับหนึ่งของโลกคริปโต

โดย SM1984

ราคา BNB หรือ Binance Coin ซึ่งเป็น Native Token ของ Binance แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลกปรับตัวขึ้นกว่า 236% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 10 ก.พ. หากนับผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มเปิดซื้อขายในเดือนพฤศจิกายน 2017 จนถึงปัจจุบัน น่าตกใจยิ่งกว่าเพราะสามารถสร้างผลตอบแทนได้แล้วกว่า 475,000%!!

ปัจจัยที่ผลักดัน ราคา BNB จนกลายเป็นเหรียญที่ถูกพูดถึงอย่างมากในเวลานี้น่าจะประกอบไปด้วยเหตุผลดังนี้

การทำลายเหรียญในอัตราเร่งที่มากขึ้น

ปลายเดือนมกราคม 2021 ที่ผ่านมา Binance ได้ทำการประกาศว่าทำการเผาเหรียญ BNB ครั้งที่ 14 เสร็จสิ้นซึ่งรอบนี้เป็นการเผาทิ้งที่มีปริมาณมากที่สุดก็คือ 3.6 ล้านเหรียญ คิดเป็น 1.81% ของจำนวนซัพพลายทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าถึง 165 ล้านดอลลาร์

ข้อสังเกตุคือการเผาเหรียญสี่ครั้งหลังสุดราคาเหรียญ BNB จะปรับตัวพุ่งขึ้นทุกครั้ง รอบนี้ก็เช่นกันจากราคา 45 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ราคา 148 ดอลลาร์หรือกว่า 328% 

Binance ได้ระบุว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 27 ปีในการ Burn เหรียญ BNB ลงครึ่งหนึ่งและทำให้อุปทานทั้งหมดลดลงเหลือ 100 ล้าน BNB ซึ่งต้องติดตามการเผาเหรียญในครั้งต่อไปว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อยลง

ทั้งนี้การที่ Binance ทำการเผาเหรียญคือเพิ่มมูลค่าให้กับเหรียญในเชิงของความหายาก (Scarcitiy) เช่นเดียวกับ Bitcoin ที่จะทำการ Halving ทุกๆสี่ปีเพื่อลดจำนวนซัพพลายใหม่ที่ออกสู่ตลาดให้น้อยลง

การกระโดดเข้าสู่สนาม DeFi

Binance ถือเป็น Exchange ที่ให้ความสำคัญกับโปรเจกต์ DeFi เป็นอย่างมาก โดยมีฟีเจอร์ที่เปิดให้สามารถนำสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่มาล๊อกไว้ใน Binance Liquid Swap ซึ่งเป็น AMM Liquidity Pool ที่ให้ผู้ใช้งาน Binance สามารถนำเหรียญมาฝากเพื่อรับผลตอบแทนได้อย่างสะดวกไว้ในที่ๆเดียวเหมือนกับเป็น Marketplace

นอกจากนี้ Binance ยังมีฟีเจอร์ DeFi Staking ซึ่งจะทำการรวบรวม DeFi Protocol ที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง Curve,Kava และ Compound รวมไว้ในที่เดียว ถือได้ว่าเป็นการเกาะกับกระแส DeFi ที่กำลังเติบโตซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกทางของ CZ เป็นอย่างมาก

ล่าสุดมูลค่าตลาดของ Binance Smart Chain พุ่งแตะ 4,200 ล้านดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการที่ค่าธรรมเนียมการใช้งานถูกกว่า Ethereum ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ DeFi Protocol นำมาใช้เป็นพื้นฐานมากที่สุดอยู่หลายเท่า ซึ่งเหรียญ BNB ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำ Yield Farming ในอัตราที่สูงมากขึ้นจะส่งผลต่อความต้องการในตลาด

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่าง BNB Vault ซึ่งเปิดให้นำเหรียญมาทำการ Staking ก็จะได้รับผลตอบแทนประมาณ 5-8% ต่อปีซึ่งถือว่าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบันค่อนข้างมาก 

หากกระแสของ DeFi เติบโตยิ่งขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้กับ Binance รวมถึง BNB อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยการใช้งานที่ง่าย มีความเสถียรในแง่ของผลตอบแทน APY แม้ตัวเลขอาจจะน้อยกว่าไปลงทุนใน DeFi Protocol ด้วยตัวเอง แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่ต้องการความหวือหวา การใช้งานใน Binance น่าจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ

ล่าสุด OKB ซึ่งเป็น Native Token ของ Okex อีกหนึ่ง Exchange อันดับต้นๆของโลกก็สามารถทำ New High ได้สำเร็จจากการที่รุกมายังตลาด DeFi อย่างการเปิดตัว Okex Chain ขณะที่ HT หรือ Huobi Token ยัง Underperform อยู่มากจากการที่ยังไม่ได้รุกเข้ายังตลาด Defi อย่างชัดเจน สะท้อนว่า DeFi คือแรงผลักดันให้กับ Exchange จริงๆ

สิทธิพิเศษต่างๆภายในแพลตฟอร์มของ Binance

การมี BNB อยู่กับตัวคือสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ Binance Launchpad ซึ่งทาง Binance เป็นผู้สนับสนุนโครงการบล็อกเชนต่างๆด้วยการเป็นผู้ระดมทุนให้หรือที่เรียกว่า IEO (Inticial Exchange Offering)

หลายๆโปรเจกต์ที่เกิดใน Launchpad สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดีเช่น Band Protocol ซึ่งเป็นโปรเจกต์ฝีมือคนไทยที่สร้างผลตอนหลักพันเปอร์เซ็นต์ ทำให้มีนักลงทุนบางกลุ่มที่ต้องการจะลงทุนในโปรเจกต์ Launchpad กลุ่มแรกๆจะต้องถือ BNB ไว้กับตัวเพื่อรับสิทธิ ทำให้เกิดดีมานด์ของเหรียญเข้ามา

รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆอย่างการนำไปใช้สะสมเพื่อเป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการเทรดแต่ละครั้ง การแปลงเศษเหรียญอื่นๆให้กลายเป็น BNB ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการสร้าง Ecosystem 

อนาคตของ BNB จะไปในทิศทางใดต่อไป??

หากมีความมั่นใจในการเติบโตของ Binance ก็ลงทุนใน BNB ได้เลย นี่เป็นคำจำกัดความชัดๆที่มีต่อเหรียญ Binance Token ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็น Digital Token (ไม่ใช่ Cryptocurrency) อันดับหนึ่งของโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะซีอีโออย่าง CZ ได้ออกแบบระบบ Ecosystem ของ BNB ได้อย่างลงตัว

ประกอบกับโปรดักต์ใหม่ๆที่ออกมาอย่างต่อเนื่องและการขยายฐานผู้ใช้งานไปทั่วโลกตลอดจนการเปิดรับสกุลเงิน Fiat Currency ในหลากหลายสกุล ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในแง่พื้นฐานของ BNB แต่อย่างไรและยังมีโอกาสจะเติบโตได้อีกหากจำนวนนักเทรดคริปโตใหม่ทั่วโลกมีเพิ่มมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Binance เวบเทรดสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก

Related Posts