Cut Loss

3 บทเรียน Cut Loss จากนักลงทุนระดับโลก

โดย SM1984

Cut Loss หรือ Stop Loss หรือภาษาไทยที่เรียกว่า “ตัดขาดทุน” คงเป็นคำที่นักลงทุนสาย Technical  ไม่ว่าสายไหนคงคุ้นเคยกับเป็นอย่างดี แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าจะเน้นเก็งกำไรหรือนักลงทุนระยะยาว การรู้จักตัดขาดทุนให้เป็นนั้น ก็เป็นส่วนสำคัญของการประสบความสำเร็จในการลงทุนข้อหนึ่งเช่นกัน

ตัดขาดทุนสไตล์ Warren Buffet

“อย่าขาดทุน” วลีเด็ดของนักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett ซึ่งมักจะถูกตีความออกไปต่างๆ จนบางครั้งเป็นที่มาของความเข้าใจผิดในกลุ่มนักลงทุนระยะยาวบางท่าน ที่มีความเชื่อว่า “ไม่ขาย ไม่ขาดทุน”  แม้ในบางครั้งราคาหุ้นอาจจะร่วงไปมากกว่า 50% แล้วก็ตาม

ในความเป็นจริง จริงอยู่ว่าราคาหุ้นนั้นมีความผันผวนที่สูงมาก แต่บางครั้งเราก็ต้องแยกให้ออกว่าราคาผันผวนจริง หรือผลประกอบการของบริษัทกำลังเป็นขาลง จนทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงรึป่าว 

ดังนั้นคำว่า “อย่าขาดทุน” นั้นหมายถึงการรู้จักรักษาเงินต้น การลงทุนด้วยแนวคิดที่คำนึงถึงความปลอดภับ มากกว่าความคาดหวังในการทำกำไร โดยแทนที่ ที่จะมองหาหุ้นที่มีโอกาสการทำกำไรหวือหวา กลับมามองหาหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีการเติบโตในระยะยาว และที่สำคัญสามารถอยู่รอดในยาวที่ตลาดหุ้นผันผวน เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่าหุ้นที่เราลงทุนนั้นไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด ต้องรู้จักที่จะตัดสินใจตัดขาดทุนก่อนที่จะบานปลายไปมากขึ้น

หยุดขาดทุนสไตล์ George Soros

แม้แต่ George Soros นักเก็งกำไรที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดนเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทย หลังเหตุการโจมตีค่าเงินบาท สมัยปี 40 วิกฤษต้มยำกุ้งของไทย ก็มีกฏเหล็กที่ทำให้ตัวเองสามารถประสบความสำเร็จมากกว่านักลงทุนท่านอื่น นั้นคือ “การรับรู้ถึงการขาดทุนได้เร็วกว่า และเดินหน้าลงทุนใหม่แทน”

บทเรียนเรื่องนี้มักจะเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดหุ้น ที่นำเงินก้อนแรกในชีวิตมาลงทุนในตลาดหุ้น แล้วไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่หวังไว้ มักไม่ยอมรับการขาดทุนตั้งแต่แรกๆ และปล่อยให้ขาดทุนหนักจนถึงจุดที่รับไม่ไหว จนต้องขายและออกจากตลาดหุ้นไป จนเป็นที่มาของคำที่นักลงทุนคุ้นหูกันว่า “วิถึของเม่า” และ “ติดดอย” นั้นเอง

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดช่วง 1-3 ปีแรกยังไม่ต้องมุ้งว่าจะทำยังไงให้ได้กำไรเยอะหรอก แต่ทำยังไงก็ได้ให้รักษาเงินต้นไว้ได้ โดยการรู้จักตัดขาดทุนให้ไว และไม่ยืดติดเสียใจกับการขาดทุน ลุกเดือนหน้าต่อแล้วประสบการณืที่เราค่อยๆสั่งสมมาจะสอนเราเอง และจะเริ่มผลิดอกออกผลเมื่อถึงเวลา

หลีกเลี่ยงการขาดทุนจาก Anthony Bolton

จากผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศอังกฤษ Anthony Bolton กล่าวว่า งานของนักบริหารการเงินมืออาชีพ ไม่ใช่แค่มองหาหุ้นดีๆ แต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงหายที่กำลังจะเกิดให้ทันเวลา

ถึงแม้จะเป็นการลงทุนในกองทุนหลายพันล้านเหรียญ บางลงทุนในหุ้นทั่วโลกหลักร้อย หลักพันตัว ก็ไม่เคยที่จะปล่อยให้หุ้นที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่เป็นลบ หรือขาดทุนมากเกินไปอยู่ในพอร์ตการลงทุน และพร้อมที่จะตัดขาดทุน หรือขายออกไปทุกเมื่อ เมื่อทิศทางไม่ได้ไปตามที่วิเคราะห์ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะที่จะตามมาได้ทันท่วงที

สรุปจากบทเรียนถึงความสำคัญของการ Cut Loss

จุดเชื่อมโยงสำคัญของนักลงทุนระดับโลก ไม่ว่าจะลงทุนระยะยาว นักเก็งกำไร หรือผู้จัดการกองทุน ล้วนคำนึงถึงการตัดขาดทุนเพื่อรักษาเงินทุนเริ่มต้นส่วนใหญ่ไว้  รวมถึงรู้จักค่าเสียโอกาส หรือ Opportunity cost หากลงทุนในหุ้นผิดตัว และไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ก็จะทำให้สูญเสียโอกาสไปลงทุนในหุ้นที่ดีกว่า

Initial lossGain needed to recovery
5%5.3%
10%11.1%
20%25.0%
30%42.9%
40%66.7%
50%100%
60%150%
70%233.3%
80%400%
90%900%
95%1900%

  จากตารางจะเห็นได้ว่า การขาดทุนยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้กำไรที่เราจะต้องทำให้ได้เพื่อคืนเงินต้นยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น และความผิดพลาดหลักของนักลงทุนรายย่อยเมื่อขาดทุนในระดับ  5%-10% แล้ว แล้วไม่ยอมตัดขาดทุน ทั้งๆที่บางครั้งที่รู้ว่าราคาหุ้น และปัจจัยพื้นฐานของหุ้นก็มีแนวโน้มเปลี่ยนไปแล้ว ยอมถือทุนจนขาดทุนไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที่อาจจะไปตัดขาดทุนเมื่อขาดทุนไปแล้ว  50%

นั้นหมายความว่าการลงทุนครั้งต่อไปต้องได้กำไร  100% เพื่อคืนทุน ย้ำว่าได้แค่คืนทุน !! แต่กลับกันหากรู้จักการตัดขาดทุนตั้งแต่  5%-10% โอกาสการทำให้กลับมาคืนทุนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปนัก

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เทคนิคการอ่านกราฟแท่งเทียน (Candle Stick)

Related Posts